‘ธนพร’ เตือนพรรคประชาชนจัดสัมพันธ์คณะก้าวหน้าให้ดี หวั่นมีนายใหญ่คอยชี้นำ

‘ธนพร’ บริจาค 3,000 บาทให้พรรคประชาชน เตือนจัดสัมพันธ์คณะก้าวหน้าให้ดี หวั่นมีนายใหญ่คอยชี้นำ คาด 44 สส.เสนอแก้ ม.112 ไม่รอด

วันนี้ (10 ส.ค. 67) รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมือง เดินทางมาบริจาคให้พรรคประชาชน จำนวน 3,000 บาท เพื่อเป็นการให้กำลังใตและสนับสนุนว่า พรรคประชาชนเป็นบททดสอบเพื่อต่อสู้เอาชนะทางการเมือง ไม่เคยเห็นมาก่อนว่าพรรคที่ถูกยุบจะลุกขึ้นมาต่อสู้ เพราะหลายพรรคที่ถูกยุบปกติจะสิ้นสภาพไป ส่วนในอนาคตจะชนะการเลือกตั้งหรือไม่ต้องจับตาดูต่อไป

ขณะนี้พรรคประชาชนไม่มีวิถีทางมาก สิ่งที่ต้องรีบทำคือสั่งสมชัยชนะ เรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้มากที่สุดจากการยุบพรรค โดนรุมกระทืบแน่นอนว่าทุกคนกังวลกันเป็นปกติ คาดว่าปลายปีนี้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคจะแสดงบทบาทการเป็นฝ่ายค้านได้ดี ส่วนการตั้งนายศรายุทธิ์ ใจหลัก เพื่อนสนิทของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่นั้น จะต้องวางสัมพันธ์ระหว่างคณะก้าวหน้า ผู้นำทางความคิด กับพรรคประชาชนที่เป็นผู้ปฏิบัติ ไม่เช่นนั้นจากจุดแข็งจะเป็นจุดอ่อน อาจจะถูกร้องเรียนได้ ตนเองไม่อยากให้เกิดภาพที่พรรคประชาชนมีนายใหญ่หลายคน มีคณะโปลิตบูโรมาคอยชี้นำเหมือนกับพรรคการเมืองอื่น

ส่วนการนำบุคคลใน 44 สส.ที่อาจถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตจากคดีลงชื่อเสนอแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น การแก้ไขกฎหมายเป็นสิ่งที่พรรคควรยืนหยัดถูกต้องแล้ว ตนเองก็สนับสนุนแนวทางนั้น ส่วนกระบวนการก็ต้องไปปรับ หากว่าพรรคถอยเรื่องนี้ก็คงเสียความเป็นตัวตน เรื่อง 44 สส.ขอวิเคราะห์ว่าไม่รอดสักคนเดียว เพราะขั้วอำนาจเดิมที่ลงแรงมาขนาดนี้ก็คงไม่ยั้งมือ สส.แกนนำหลายคนก็คงต้องไปต่อสู้ในชั้น ป.ป.ช.ให้ดี ทีมกฎหมายพรรคต้องไปทำการบ้านมาใหม่ และไม่อยากให้มองในแง่ดีมากเกินไป เพราะกลัวอำนาจเดิมที่จ้องจะถอนรากถอนโคน

รศ.ดร.ธนพรกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาชนนำบุคคลใน 44 สส.มาเป็นกรรมการบริหารพรรค เพราะไม่มีทางเลือกมาก เป็นข้อบังคับของสถานการณ์ หากไม่ใช้คนเหล่านี้ก็คงจะขาดความเชื่อมั่น แต่เชื่อว่าบุคคลที่ยังไม่ได้ขึ้นมาเป็นกรรมการบริหารพรรคจะสามารถทำงานได้อย่างมีคุณภาพ