‘พิทักษ์เดช’ จี้ รัฐบาลเร่งช่วย 4 ประมง-เรือไทย
‘พิทักษ์เดช’ จี้ รัฐบาลเร่งช่วย 4 ประมง-เรือไทย ชี้ พื้นที่ปัญหาเป็นพื้นที่ทับซ้อน ประเทศใดอ้างสิทธิ์ไม่ได้ แนะ เจรจาร่วม ไทย-เมียนมา ทำประมงร่วมกันโดยปราศจากความรุนแรง
วันนี้ (9 ธ.ค. 67) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายพิทักษ์เดช เดเดชโช รองโฆษก และ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทยในเขตน่านน้ำพื้นที่ด้านทิศตะวันตกของเกาะพยาม จ.ระนอง ว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ทางทะเลที่ทับซ้อนและยังไม่สามารถตกลงกันได้ การที่ชาวประมงทำการประมงในพื้นที่บริเวณที่ทับซ้อนเป็นเหมือนกัน เรารักษาอำนาจอธิปไตยที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ และพื้นที่ที่ชาวประมงเข้าไปทำการประมงก็อยู่ในเขต 12 ไมค์ทะเล ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ.1982
“พื้นที่ดังกล่าวยังไม่สามารถตกลงกันได้ มีเพียงข้อตกลงหรือเอ็มโอยูระหว่างในการปฏิบัติต่อกัน ไม่มีผลเป็นเขตแดนทางกฎหมายใด ๆ ดังนั้น พื้นที่ที่เป็นปัญหาระหว่างเรือประมงไทยกับทหารเมียนมานั้นก็ถือว่าเป็นพื้นที่อาณาเขตระหว่างทางทะเลระหว่างไทยกับเมียนมาที่ประเทศใดจะมาอ้างสิทธิ์ไม่ได้ การที่เรือประมงไทยเข้าไปทำการประมงในพื้นที่ตรงนี้ เรือประมงพม่าก็เข้าไปทำการประมงเช่นกัน โดยที่ทหารไทยหรือรัฐบาลไทยก็ไม่เคยไปไล่หรือทำเหตุการณ์ไม่ดีไม่ร้ายกับชาวประมงเมียนมา” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายพิทักษ์เดช กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ คิดว่ารัฐบาลไทยควรจะเร่งรัดนำชาวประมงไทยและเรือประมงไทยกลับสู่ประเทศไทยโดยเร็ว และรัฐบาลไทยควรที่จะเจรจาร่วมกันในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่พิพาทอยู่ เพื่อให้ประมงไทย และประมงเมียนมาสามารถทำการประมงร่วมกันโดยปราศจากความรุนแรงในพื้นที่ดังกล่าวนี้โดยเร็ว