‘ภูมิธรรม’ บอก ปมแก้ พ.ร.บ.กลาโหม ให้อำนาจ ครม.ตั้งนายพล ขอให้รอฟังผลศึกษา

‘ภูมิธรรม’ ขออย่าเพิ่งคิดไกล ปมแนวคิด สส.เพื่อไทย ชงแก้ พ.ร.บ.กลาโหม ให้อำนาจ ครม.ตั้งนายพล ลดอำนาจการรัฐประหาร ชี้ รอฟังผลศึกษา – ยันไม่ล้วงลูก ข้าราชการประจำ ลั่น ไม่มีเจตนาลดอำนาจทหาร ชี้ กองทัพ-การเมืองคุยกันดี
วันนี้ (9 ธ.ค. 67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ เสนอให้มีการรับฟังความเห็นเขียน ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…) พ.ศ. … โดยให้อำนาจคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล เพื่อสกัดการรัฐประหาร ว่า ตนเองในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองกอง ต้องรอดูเหตุและผลในที่ประชุม ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ชั้นที่ประชุมสภากลาโหมแล้ว โดยจะมีข้อคิดเห็นและข้อแนะนำปรับปรุง ซึ่งต้องดูเรื่องหลักการและความเป็นจริงว่าจะจัดการอย่างไรเพราะการเปลี่ยนแปลงที่ดีทุกคนปรารถนาอยู่แล้ว แต่จะเปลี่ยนให้ได้ถึงขนาดไหน อย่างไร ก็ต้องดูข้อเท็จจริงและดูความเห็นจากทุกฝ่าย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นด้วยกับหลักการที่ นายประยุทธ์ เสนอหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าตนเองเป็นประธานที่ประชุมจึงไม่อยากพูดคุยไปก่อน ขอฟังทุกอย่างก่อน
สำหรับแนวคิดดังกล่าวอาจจะเป็นการลดอำนาจของทหารหรือไม่นั้น รมว.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะออกมาอย่างไรอย่าเพิ่งไปคิดว่าลดหรือไม่ เพราะตนเองไม่มีเจตนาลดอำนาจทหารอยู่แล้ว เพราะเขาก็มีกฎระเบียบ กฎหมายของเขาในการควบคุมดูแลเหมือนพลเรือน ซึ่งหากมีปัญหาก็ต้องแก้ไข
ส่วนเรื่องที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าหาก พ.ร.บ.ดังกล่าว ผ่านจริง และการรัฐประหารจะรุนแรงกว่าที่ผ่านมานั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่เคยเห็นรายงานว่ามีใครพูดถึง และตนเองยังไม่มีการคุยเรื่องนี้กับผู้บัญชาการเหล่าทัพคนใดเลย ฉะนั้นขอสื่ออย่าคิดไปก่อนว่ามันจะเกิดขึ้น พร้อมย้ำว่าขอรอฟังความเห็นจากคณะกรรมการกลั่นกรองก่อน อย่ามองว่าจะมีข้อสรุปอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่ต้องประชุม
ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมว่า หวั่นจะเป็นประเด็นรอยร้าวระหว่างการเมืองกับกองทัพหรือไม่ รมว.กลาโหม ระบุว่า ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น และยืนยันว่ากองทัพกับการเมืองตอนนี้ก็คุยกันดี ตนเองอยู่กระทรวงกลาโหมก็ได้รับการสนับสนุน ต้อนรับ และสนับสนุนในการทำงาน ไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องไปล้วงลูกฝ่ายข้าราชการประจำซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามหลักเหตุและผล ฉะนั้นอย่าไปคิดอะไรกันเลยเพราะมันจะสร้างแต่ความขัดแย้ง ขอให้พูดแต่ประเด็นที่เป็นจริงมีอะไรเกิดขึ้นแล้วค่อยมาถาม ไม่ใช่ “ถ้า” อย่างโน้นอย่างนี้เพราะเป็นการคิดฝันไปเอง ดังนั้นขอให้อยู่เป็นข้อเท็จจริง