‘เฉลิมชัย‘ ยันเป็นหัวหน้าเพื่อกู้วิกฤตพรรค สร้างเอกภาพ เห็นความเปลี่ยนแปลงใน 3 เดือน
วันนี้ (9 ธ.ค. 66) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์หลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ระบุว่า สิ่งแรกที่จะทำคือต้องสร้างความเสมอภาคภายในพรรค ให้ทุกคนช่วยกัน เพราะประชาธิปัตย์มีสมาชิกทุกรุ่น ทุกกลุ่ม วันนี้ถ้าทุกกลุ่มมาร่วมลงมือทำก็จะอยู่ร่วมกันได้ อย่างที่สองคือคณะทำงานของกรรมการบริหารชุดใหม่ ต้องพร้อมทำงานทันที และต้องมีการประเมินผล ซึ่งตนเพิ่งตัดสินใจเรื่องนี้ตอน 22.00 น.เมื่อคืนนี้ เราจะมีการประเมินกันทุก 3 เดือนทั้งในส่วนของเงื่อนไข ข้อบังคับพรรค คุณสมบัติ การเปิดกว้าง ยุทธศาสตร์ นโยบายพรรค การสื่อสาร โดยจะมีคณะทำงานและประเมินทุก 3 เดือน ดังนั้นใน 3 เดือนแรกจะต้องมีความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม และคิดว่าวันนี้คนประชาธิปัตย์ยังรักพรรค หวังอย่างยิ่งว่าจะช่วยกันกันสร้างพรรค
ในส่วนของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ที่ประกาศลาออกสมาชิกพรรคแต่พร้อมจะช่วยงานพรรคนั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ในการพูดคุยกันตนได้ถามนายอภิสิทธิ์ว่าไม่ออกได้หรือไม่ แต่นายอภิสิทธิ์บอกว่าออกมาเพื่อความสบายใจ ไม่ให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และเพื่อไม่ให้ถูกมองว่าจะยุ่งเกี่ยวกับกรรมการบริหาร ตนก็เคารพการตัดสินใจ แต่ท่านก็บอกว่ายินดีพร้อมจะกลับมา ซึ่งผมก็พร้อมและยินดีอยากให้นายอภิสิทธิ์กลับมา ยืนยันว่าตนมาวันนี้เพื่อมาแก้วิกฤตให้พรรคเดินไปได้ และประกาศชัดเจนว่าประชาธิปัตย์จะปรับเปลี่ยนเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาได้มากขึ้น นี่คือความตั้งใจ
ส่วนจะนำพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่นั้น เนื่องจากบอกว่าเข้ามาเพื่อแก้วิกฤต แสดงว่าจะมีคนอื่นเข้ามานำทัพเลือกตั้งหรือไม่ นายเฉลิมชัย ระบุว่า ตอนนี้เข้ามาดูพรรคประชาธิปัตย์ในปัจจุบันก่อน
ส่วนที่ได้ปิดห้องพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่าไม่มีอะไรขัดแย้งกัน ยังพูดเหมือนเดิมว่ามองตาก็รู้ใจ ทำงานกันมานาน รู้ใจกัน เพียงแต่การพูดในวันนี้ เป็นการพูดเปิดในสิ่งที่ตนเจออะไร และนายอภิสิทธิ์คิดอะไร มาแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งคิดว่านายอภิสิทธิ์ตัดสินใจมาแล้ว เพียงแต่ได้พูดคุยกัน ท่านก็เข้าใจ ตนก็เข้าใจ และเชื่อว่าทั้งท่านและตนกรีดเลือดออกมาเป็นสีฟ้า “ผมรักพรรค ท่านก็รักพรรค”
ส่วนที่หลายคนมองว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลนั้น เราไม่ได้คุยในรายละเอียดเรื่องนี้ แต่ได้บอกที่ประชุมว่า ขอให้เชื่อมั่น ตนเองอยู่พรรคมา 22 ปีเต็มๆ หลักการและอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยน เป็นคนรักษาหลักการและอุดมการณ์พรรคมาตลอด นี่คือสิ่งที่จะยืนยันได้ว่าหากจะบอกว่าประชาธิปัตย์ไม่มีจิตวิญญาณแล้ว ขอให้มองด้วยใจที่เป็นธรรม พร้อมยืนยันว่าวันนี้ประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน และวันที่ 12 ธันวาคมที่จะเปิดสภา พรรคประชาธิปัตย์จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้เข้มแข็งและดีที่สุด
ส่วนเรื่องของการร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายเฉลิมชัย ตอบว่า เราต้องนึกถึงประโยชน์ของประเทศชาติและพรรคด้วย ไม่ใช่แค่ตัวบุคคล และยืนยันว่าจะไม่มีการตัดสินใจอย่างง่ายๆ เด็ดขาด เพราะการที่เข้ามาทำภารกิจให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้ พรรคต้องเดินไปข้างหน้าก่อน ส่วนอนาคตไม่มีใครเดาได้ แต่ในหลักการและอุดมการณ์ของพรรคยืนยันว่าจะต้องอยู่
ส่วนที่มีคนลาออก และเสียง สส.ที่สนับสนุนนายเฉลิมชัยเป็นหัวหน้าพรรคมีเพียง 21 เสียง ไม่ใช่ สส.ทั้งหมด จะสามารถสร้างเอกภาพได้จริงหรือไม่ นายเฉลิมชัย ระบุว่า ตนจะพยายามให้เต็มที่ วันนี้จะขอคุยกับทุกฝ่ายและขอให้มาช่วยกัน และไม่กลัวว่าพรรคจะแตกหรือมีคนไหลออก เพราะเชื่อว่าทุกคนต้องมีเหตุผล ขึ้นอยู่กับว่ารักพรรคจริงหรือไม่
ส่วนหลังจากนี้ จะทำความเข้าใจกับผู้อาวุโสของพรรคอย่างไร นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องคุยกับทุกท่านอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้อาวุโส เพราะท่านเป็นปูชนียบุคคลของพรรค เราต้องปรึกษากัน เชื่ออย่างเดียวว่าไม่มีใครรักพรรคน้อยกว่าใคร
ส่วนที่ก่อนหน้านี้อาจจะมีการติดใจเพราะเคยประกาศว่าจะเลิกเล่นการเมือง แต่กลับมานั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร พูดเรื่องนี้ไป 2 ครั้งแล้ว แต่ถ้าต้องการทราบคำตอบขอให้ไปถาม สส. และกรรมการบริหารพรรค เชื่อว่าทุกคนพร้อมตอบคำถาม เพราะเป็นข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่ได้เป็นการกลับกลอกคำพูดตัวเองใช่หรือไม่ นายเฉลิมชัย ตอบว่า ไม่ใช่ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่หากจะถามเหตุผลต้องไปถาม สส.และกรรมการบริหารพรรค ก่อนจะเดินออกจากวงสัมภาษณ์เข้าไปร่วมประชุมต่อ