ผอ.รร.จันทบุรี ร้องทุกข์โดนผู้ช่วย สส.กลั่นแกล้ง บีบเซ็นใบอนุโมทนาบัตรเท็จ
’แทนคุณ‘ ลั่น ตั้งแต่มีพรรคก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม “เมาเสรี ฟรีกาม คุกคามประชาชน” – ผอ.รร.จันทบุรี ร้องทุกข์โดนผู้ช่วย สส.กลั่นแกล้งกดดัน บีบเซ็นใบอนุโมทนาบัตรเท็จ ลั่น ยังมีเป็น 10 เคสรอแฉ
วันนี้ (9 พ.ย. 66) ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และนายนิยม นพรัตน์ ฉายา “เค สามถุยส์” นำผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จังหวัดจันทบุรี มายื่นหนังสือผ่านตัวแทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม สืบเนื่องจากโดนผู้ช่วย สส.พรรคก้าวไกล คนหนึ่งใน จ.จันทบุรี อักษรย่อ จ. คุกคาม
นายแทนคุณ กล่าวว่า วันนี้พา ผอ.โรงเรียนมาร้องเรียน เพราะถูกผู้ช่วย สส.ของพรรคก้าวไกลคุกคาม โดยขอให้ ผอ.คนนี้ช่วยออกใบอนุโมทนาบัตร 2 ใบ โดยใบแรกจำนวนเงิน 8 แสนบาท และใบสองจำนวน 3.7 แสนบาท แต่ ผอ.ไม่ยอมออกให้ เนื่องจากไม่มีอำนาจและไม่มีจำนวนเงินดังกล่าวเข้าโรงเรียนแต่อย่างใด ภายหลังเหตุการณ์นี้ ผอ.ได้รับความเดือดร้อน โดนใส่ร้ายป้ายสีกระทบเรื่องส่วนตัว อีกทั้งผู้ช่วย สส.รายนี้ยังบุกเข้ามาโวยวาย ผอ.ว่าทุจริตคดโกง
นายแทนคุณ กล่าวต่ออีกด้วยว่าเรื่องของผู้ช่วย สส.คนนี้จะเชื่อมโยงไปถึง สส.จันทบุรี คนนั้นหรือไม่ เพราะเห็นเขาโพสต์เฟซบุ๊ก เรื่องต่างๆ และพวกเราไม่ได้มุ่งอาฆาตมาดร้าย ไม่ใช่คนที่คิดจองเวร หรือมีความแค้นส่วนตัว แต่เมื่อได้รับเรื่องนี้มาเราก็ดำเนินการ ซึ่งยังมีอีกหลายเรื่องที่คล้ายๆ แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วย สส. ผู้ชำนาญการ หลายพื้นที่ รวมทั้งตัว สส.เองด้วยที่มีอีกหลายเรื่อง แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เรียกว่าเป็น 10 เคสที่ไม่ใช่ธรรมดา ถ้าพูดทุกวันจากนี้จนถึงสิ้นปีคงพูดไม่หมด
“ตอนนี้บอกได้เลยว่าตั้งแต่มีพรรคก้าวไกลมาประเทศไทยไม่เหมือนเดิมจริงๆ ไม่เคยมีการเมืองครั้งไหนที่จะเรียกว่า เมาเสรี ฟรีกาม คุกคามประชาชน รุนแรงและเลวร้ายเท่ากับการมีอยู่ของพรรคก้าวไกล” นายแทนคุณ กล่าว
นอกจากนี้ เค สามถุยส์ ยังเปิดเผยอีกว่า ผู้ช่วย สส.คนดังกล่าวเป็นเพศหญิง และเป็นหลานเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจันทบุรี แต่มีพฤติกรรมเข้าไปอยู่ในกุฏิวัด ซึ่งกุฏิดังกล่าวสร้างจากเงินผู้มีจิตศรัทธาในศาสนา เพื่อใช้รับรองพระสงฆ์ แต่ผู้ช่วย สส.กลับยึดครองไว้เอง
ด้าน ผอ.ผู้เสียหาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ตนเองไม่ยอมเซ็นใบอนุโมทนาให้ ต่อมาในวันที่ 28-29 มีนาคมผู้ช่วย สส.คนดังกล่าวได้ไปหว่านล้อมชุมชนเพื่อให้มากดดัน ทำให้ตนเองได้รับความเดือดร้อนชีวิตวุ่นวาย ลามไปถึงลูกสาวด้วย สุดท้ายทนไม่ได้จึงลาออกจากการเป็น ผอ. แต่ก็เปลี่ยนใจขอทบทวนไม่ลาออก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ทบทวนการเซ็นคำสั่ง