ฝ่ายค้าน ลงเรือแจกสิ่งของยังชีพ ให้กำลังใจ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม
วันนี้ (9 ต.ค. 64) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.และหัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นำ ส.ส.พรรคประชาชาติจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ส.ส.ปัตตานี นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา นางสาวธนภร โสมทองเเดง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทยและพร้อมด้วยตัวแทนจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ตำบลจระเข้ร้อง อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ โดยระดับน้ำสูงถึง 2-3 เมตร ท่วมมาเกือบสัปดาห์แล้ว
ถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูง รถไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ จึงต้องพายเรือเข้าไป มวลน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สิ่งของในบ้านได้รับความเสียหาย รวมทั้งพืชผลการเกษตรเสียหายอย่างหนัก บางหลังน้ำท่วมมิดหลังคา แต่บางหลังยังสามารถใช้ชีวิตอยู่บริเวณชั้นสองของบ้านได้ ชาวบ้านบอกกับ ส.ส.ฝ่ายค้านว่ายังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่รู้สึกดีใจที่ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านมาเยี่ยมถึงบ้าน และรู้สึกดีใจมากเมื่อทราบว่ามี ส.ส.พรรคประชาชาติที่มาไกลจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาให้กำลังใจถึงจังหวัดอ่างทองด้วย สะท้อนถึงการช่วยเหลือเกื้อกูลกันของคนไทยในสังพหุวัฒนธรรม ที่เราต้องช่วยเหลือกันในยามลำบากแม้รัฐบาลจะไม่เหลียวแลก็ตาม
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่า “ขอแสดงความเสียใจต่อผู้ประสบภัย อยากมาให้กำลังใจแก่พี่น้อง ความจริงเท่าที่ได้รับฟังมาอาจเป็นการเฉลียวใจหรือความประมาทของรัฐบาลที่ปล่อยให้เขื่อนชำรุดทรุดโทรมจนเกิดระบิดขึ้นและส่งผลให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้นคือความสูญเสียในทรัพย์สิน ความสูญเสียโอกาสทางอาชีพ และสำคัญอย่างยิ่ง กว่าจะฟื้นฟูให้กลับมาสู่สภาพปกติก็คงใช้เวลาอีกนาน ในฐานะของพรรคร่วมฝ่ายค้าน นอกจากมาให้กำลังใจแล้วก็จะมารับฟังปัญหาเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการฟื้นฟูเยียวยา หรือการพัฒนา ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมลักษณะนี้ทราบมาว่าไม่เคยเกิดขึ้นในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา อาจเป็นความประมาทของรัฐบาล ที่ปล่อยปละให้คันเขื่อนกันแม่น้ำเจ้าพระยาที่สร้างไว้ประมาณ 40 ปี สภาพชำรุดไม่ได้ปรับปรุงซ่อมแซมถูกแรงดันน้ำเกิดระเบิดพังจนเกิดน้ำทั่วมถือเป็นอุทกภัยใหญ่ใหญ่ของตำบลจรเข้ร้อง สร้างความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชนทุกหย่อมหญ้า”