วุฒิสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบ 68 รัฐบาลยัน จัดสรรงบฯ สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ
วุฒิสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบ 68 รัฐบาลยืนยันจัดสรรงบประมาณสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ มีการกระจายงบประมาณอย่างทั่วถึง ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังของประเทศ
การประชุุมวุฒิสภาวันนี้(9 ก.ย. 67) นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยที่ประชุมรับทราบ พระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี จากนั้นเป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 3,752,700 ล้านบาท ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว
จากนั้น นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงแนวทางการจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ ระบุว่า มีการดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ และนโยบายของรัฐบาล เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางในการจัดสรรงบประมาณ โดยคำนึงถึงความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ การมีส่วนร่วมของประชาชน และอยู่บนพื้นฐานความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนให้ความสำคัญกับสวัสดิการที่จำเป็นสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางทางสังคม รวมทั้งให้มีการกระจายงบประมาณอย่างเป็นธรรมมีความคุ้มค่าไม่ซ้ำซ้อนและเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อประชาชน
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพิ่มศักยภาพการถ่ายโอนภารกิจการจัดบริการสาธารณะ ลดความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้และประสิทธิผลการใช้จ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำงบประมาณให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน รวมทั้งนำผลการใช้จ่ายงบประมาณมาประกอบการพิจารณาให้สอดคล้องกับศักยภาพการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานรับงบประมาณ โดยให้ความสำคัญกับความพร้อมและศักยภาพของหน่วยรับงบประมาณ ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน เพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ การแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ และประโยชน์ต่อประชาชนเป็นสำคัญ
สำหรับข้อคิดเห็น คำแนะนำ รวมถึงความห่วงใยที่ สว. ได้เสนอแนะไว้ตลอดระยะเวลาการประชุม รัฐบาลขอรับไว้ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณ เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป
ด้านสมาชิกวุฒิสภาต่างอภิปรายการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลของรัฐบาล จะส่งผลเสียกับประเทศในอนาคต หากไม่มีวิธีการแก้ไข โดย นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่าการจัดทำงบประมาณขาดดุลของรัฐบาล กับตัวเลขหนี้และดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบกับวินัยการเงินการคลังของประเทศในที่สุด เพราะไม่ใช่เพียงแค่รายจ่ายประจำเท่านั้น แต่รัฐบาลต้องชำระเงินกู้ และนำเงินไปลงทุนในโครงการต่าง ๆ ซึ่งรายจ่ายประจำแต่ละปี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราต้องกู้เงินมาแก้ปัญหา หากยังทำเหมือนเดิม อีกไม่นานก็อาจต้องล้มละลายในที่สุด
ทั้งนี้ มีรายงานว่า การประชุมวุฒิสภาในวันนี้ เป็นไปด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากแอร์ของอาคารรัฐสภาเสีย เพราะ Chiller Run ขัดข้องทำให้ระบบหยุดทำงานชั่วคราว ส่งผลกระทบถึงเครื่องปรับอากาศภายในอาคารทำความเย็นล่าช้า และไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งผู้สื่อข่าวที่อยู่ในห้องสื่อมวลชน และ สว.ที่ประชุมภายในห้องจันทรา ต้องประชุมกันท่ามกลางอากาศที่ร้อน บางคนถึงกับถอดสูท เหงื่อแตก ถึงขั้นยกเอกสารขึ้นมาพัด จนเจ้าหน้าที่ต้องนำพัดลมมาช่วยบรรเทาอาการไปก่อน ก่อนที่เวลา 11.15 น. สำนักอาคารสถานที่ได้แจ้งว่าได้แก้ไขระบบเรียบร้อยแล้ว
