โฆษกรัฐบาล ยืนยัน น้ำมันไทยไม่ได้แพงที่สุด
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง พบว่าราคาพลังงานสูงขึ้น และบางประเทศขาดแคลนพลังงาน ส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก
นายกรัฐมนตรีมีข้อห่วงใย จึงกำชับทุกฝ่ายช่วยกันสร้างการรับรู้ให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องราคาน้ำมันของไทย เน้นย้ำว่า ราคาน้ำมันไทยไม่ได้แพงที่สุดในอาเซียน และรัฐบาลให้ความสำคัญกับการรักษาความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ยืนยันว่า รัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาพลังงานของประเทศให้ดีที่สุด
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ราคาน้ำมันไทยไม่ได้แพงที่สุดในอาเซียน ไทยยังมีบริษัท ปตท. ที่พร้อมดูแลความมั่นคงด้านพลังงาน โดยกระทรวงพลังงานชี้แจงว่า ท่ามกลางสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน เป็นเหตุให้อุปทานพลังงานลดลง ประกอบกับสถานการณ์โควิดในหลายประเทศที่เริ่มคลี่คลาย ทำให้ความต้องการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อราคาเชื้อเพลิง รวมถึงค่าครองชีพของประชาชนที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก
ทั้งนี้ หากเทียบราคาน้ำมันของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน จะพบว่า จุดที่ทำให้ราคาแตกต่างกัน คือโครงสร้างน้ำมัน โดยประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ต้องนำเข้าน้ำมันเช่นเดียวกับประเทศไทย ทำให้มีต้นทุนเนื้อน้ำมันไม่ต่างกันมากนัก เพราะราคาที่ซื้อ-ขายจะอ้างอิงจากราคาตลาดโลก แต่ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันที่ขายในแต่ละประเทศแตกต่างกัน คือโครงสร้างน้ำมันของแต่ละประเทศที่มีมาตรการภาษี และระบบการเก็บเงินเข้ากองทุน หรืออุดหนุนราคาพลังงานที่แตกต่างกัน
บางประเทศที่น้ำมันถูก เช่น มาเลเซีย หรือบรูไน ต่างเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ทำให้นอกจากจะไม่เก็บภาษีเพิ่มแล้ว ยังมีนโยบายสนับสนุนราคาในประเทศ โดยรัฐบาลได้นำเงินที่ได้จากการขายน้ำมัน มาอุดหนุนราคาน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันในประเทศเหล่านั้นถูกกว่าประเทศอื่นๆ สำหรับประเทศไทย รัฐบาลได้ดูแลราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล รวมถึงมาตรการลดภาษี และล่าสุด ได้ลดการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของน้ำมันกลุ่มเบนซิน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะที่ประเทศไทยต้องนำเข้าน้ำมันดิบ ซึ่งราคาขึ้นลงตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา มีต้นทุนเนื้อน้ำมันจากราคาหน้าโรงกลั่น อ้างอิงราคาตามตลาดสิงคโปร์ และยังต้องเสียภาษีต่างๆ หากเปรียบเทียบราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลของไทย กับประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนแล้ว ราคาน้ำมันเฉลี่ยในอาเซียน ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2565 (อัตราแลกเปลี่ยน อัตรากลาง ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2565) เบนซินสิงคโปร์ อยู่ที่ 83.25 บาท/ลิตร , ลาว อยู่ที่ 60.68 บาท/ลิตร , กัมพูชา อยู่ที่ 52.51 บาท/ลิตร , ฟิลิปปินส์ อยู่ที่ 51.26 บาท/ลิตร , เวียดนาม อยู่ที่ 46.79 บาท/ลิตร , เมียนมา อยู่ที่ 44.95 บาท/ลิตร , ไทย อยู่ที่ 44.65 บาท/ลิตร , อินโดนีเซีย อยู่ที่ 43.78 บาท/ลิตร
ส่วนดีเซล สิงคโปร์ อยู่ที่ 77.00 บาท/ลิตร , ฟิลิปปินส์ อยู่ที่ 51.91 บาท/ลิตร , กัมพูชา อยู่ที่ 46.59 บาท/ลิตร , ลาว อยู่ที่ 46.36 บาท/ลิตร , อินโดนีเซีย อยู่ที่ 46.05 บาท/ลิตร , เมียนมา อยู่ที่ 44.58 บาท/ลิตร , เวียดนาม อยู่ที่ 39.11 บาท/ลิตร ส่วนไทย อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร