‘ณัฐชา’ พรรคก้าวไกล ฉีกพ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้าน ทิ้งกลางสภา
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานครพรรคก้าวไกล เขตบางขุนเทียน อภิปราย พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาท โดยระบุว่า การกู้เงินด้วยรูปแบบพิเศษของ รัฐบาลประยุทธ์ โดยการออก พ.ร.ก. ฉบับนี้ เป็นการกู้ครั้งที่ 2 แล้ว ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ต่อต้านการกู้เงินในสถานการณ์ที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อน เพราะ 7 ปีที่รัฐบาลบริหารมาทำให้เงินของประเทศไม่เหลือแล้ว โดยมีเหตุผล 2 ข้อ
“ข้อแรก ผมและพี่น้องประชาชนทั้งประเทศเห็นตรงกันว่า คนกู้เงิน คนใช้เงิน คือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไร้ความสามารถในการบริหารเงินที่มีอยู่ แต่ยังมีหน้าจะไปกู้เงินมาบริหารอีก ที่ผ่านมาเคยกู้ไป 1 ล้านล้าน แต่ยังทำเอาพี่น้องประชาชนเจ็บปวดทั้งประเทศ แค่มาตรการง่ายๆอย่างการแจกเงินก็ยังทำให้คนด่าทั้งประเทศได้ เราไม่ทิ้งกัน เราชนะ เรารักกัน ไม่ถ้วนหน้า ทั่วถึง ทันการณ์ รอบที่ผ่านมา เงินเยียวยาแต่ละครั้ง ต้องรอจนเยี่ยวราด มีคนขู่ฆ่าตัวตาย กินยาเบื่อหนูหน้ากระทรวง ลงทะเบียนแล้ว ลงทะเบียนเล่าคนจนตายรายวัน นี่จึงเป็นการแจกเงินที่มีคนด่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่แม้แต่ ส.ส. รัฐบาลเองยังพูดกลางสภา”
จากข้อมูลเบิกจ่ายเงินกู้ 1 ล้านล้าน ณ วันที่ 28 พ.ค. 2564 โครงการด้านสาธารณสุข พวกปรับปรุงห้อง ICU ปรับปรุงห้องฉุกเฉิน ปรับปรุงห้องความดันลบ ไม่มีโครงการใดแล้วเสร็จเลยแม้แต่โครงการเดียว
“แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจยิ่งเลวร้าย ตอนจะมาขอกู้ก็คุยโม้ โอ้อวดไว้สวยหรู บอกว่ารายได้ภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 11,000 ล้านต่อปี เกษตรทันสมัยจะเพิ่ม 5 ล้านไร่ พื้นที่เก็บน้ำเพิ่มขึ้น 7,900 ล้านลูกบาศก์เมตร กู้มาปีนึงแล้วไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมเลยซักอย่างเดียว ยังไม่จบ
โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ 3,000 กว่าล้านบาท เบิกจ่ายไปได้แค่ 15%
โครงการโคก หนอง นา โมเดล 4,000 กว่าล้าน เบิกจ่ายไปได้แค่ 17% เมื่อเข้าไปเช็คข้อมูล สุดท้ายเจอเป็นเพียงโครงการที่ทหารเอาไปใช้เล่นๆด้วยการตั้งศูนย์การเรียนรู้โคก หนอง นา ในค่ายทหาร 157 แห่ง แบบนี้จะฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย หรือฟื้นฟูเศรษฐกิจใครกันแน่”
ณัฐชา ยังชี้ให้เห็นว่าโครงการนี้มีลักษณะตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จเหมือนเดิม โดยบอกประชาชนคนใช้หนี้ว่าจะกู้ 5 แสนล้านบาทมาเยียวยา แต่ข้อความเนื้อในมีส่วนของการเยียวยาแค่ 3 แสนล้านบาท ด้านสาธารณสุข 3 หมื่นล้าน แล้วก็สอดไส้งบฟื้นฟู ซึ่งไม่รู้ว่าฟื้นฟูเงินในกระเป๋าใครอีก 170,000 ล้าน บาท ซึ่งในวันนี้ผู้ขอกู้เองก็ยังไม่กล้าสู้หน้าประชาชนในสภาแห่งนี้ ทำแค่ส่งบริวารลิ่วล้อมาชี้แจงแทน แล้วเราจะกล้าให้เงินคนแบบนี้ไปใช้อีก 5 แสนล้าน ได้อย่างไร
ณัฐชา อภิปรายต่อไปว่า เหตุผลที่สอง ที่ไม่สามารถยอมให้รัฐบาลกู้เงินครั้งนี้ได้ เพราะจะกู้เงินมากถึง 5 แสนล้าน แต่ให้เอกสารมาพิจารณาแค่ 5 แผ่น ไม่มีบอกพี่น้องประชาชนคนใช้หนี้ตัวจริงว่า เงินที่กู้ไปนี้จะเอาไปทำอะไร ที่ไหน อย่างไร มีตัวชี้วัดหรือไม่ว่าถ้ามีเงินกู้ก้อนนี้ พี่น้องประชาชนจะกลับคืนสู่ภาวะปกติภายในกี่เดือน วัคซีนจะได้ฉีดครบทุกคนภายในสิ้นปีนี้จะมีวัคซีนให้เลือกมากกว่านี้อีกหรือไม่
“แต่ท่านกลับทำตัวลับๆ ล่อๆ ตอนผ่าน ครม. ก็ทำเป็นประชุมลับ ชักเข้าชักออกจะเอาดี หรือไม่เอาดี พอมาเข้าสภาส่งมา 5 แผ่นบอกให้รีบๆ ผ่านเหมือนคนร้อนเงิน แต่ถึงผ่านให้หนทางก็ยังดูมืดมนที่เพราะคนใช้เงินไม่เคย คิด วิเคราะห์ แยกแยะ เทียบกันให้ชัด
รอบแรก คนติดเชื้อร้อยคนต่อวัน ท่านโอเวอร์แอคชั่น สั่งล็อกดาวน์ 2 เดือน จ่ายเงินเยียวยา 15,000 บาท ต่อคน
รอบสอง ติดเชื้อพันคนต่อวัน ท่านโยนภาระให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับผิดชอบเองว่าจะล็อค-ไม่ล็อค ตอนนั้นท่านให้เงินเยียวยาคนละ 7,000 บาท
รอบสาม ติดเชื้อกันประมาณ 3,000 คนต่อวัน ท่านไม่ทำอะไรเลย แบ่งเงินจากที่กู้รอบที่แล้วมาให้คนละ 2,000 บาท
มาวันนี้ ติดเชื้อกันสูงสุดวันละเกือบหมื่นคน นอกจากไม่เห็นท่านทำอะไรเพื่อรับมือโรคระบาดแล้ว วัคซีนก็ชุลมุน มาตรการเยียวยาก็ไม่ออกมา ล่าสุดข่าวที่เห็น ท่านจะให้คนละ 1,200 ยังอุตส่าห์ซอยเหลือรอบละ 200 กู้มา 5 แสนล้าน หลอกว่าจะเยียวยา สุดท้ายได้กันทีละ 200 ไม่ไว้วางใจคนที่ให้ท่านกู้เลยหรือ”
ช่วงท้ายของการอภิปราย ณัฐชา เสนอทางออกว่า มีสองทาง ทางแรก ถอน พ.ร.ก.ฉบับนี้ออกไป แล้วทำกลับมาใหม่เป็น พ.ร.บ. งบประมาณกลางปีที่มีรายละเอียดของแต่ละโครงการ ส่วนทางเลือกที่สอง คือ เปลี่ยนตัวคนกู้ใหม่ เปลี่ยนตัวนายกใหม่ เพราะนายกคนเดิม คนกู้คนเดิม ไม่เหลือความชอบธรรม ความน่าเชื่อถือ ในสายตาพี่น้องประชาชน
“พ.ร.ก. เงินกู้ 5 แสนล้าน ไม่มีความรู้สึกทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชน คนใช้หนี้ตัวจริงอยู่ในนี้เลย ทั้งที่พี่น้องประชาชนมีความตายมีความหิวอยู่จริงๆ มีแต่ตัวหนังสือบนกระดาษ 5 แผ่น ที่ไม่มีความรู้สึกของประชาชนอยู่ในนั้น ไปทำมาใหม่ ผมไม่อาจปล่อยผ่าน พ.ร.ก.ฉบับนี้ได้” จากนั้น ณัฐชาจึงได้ฉีกร่าง พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวทิ้งกลางสภา