นายกฯ พร้อมดันมวยไทยเป็น Soft Power สร้างอาชีพ ขายสินค้า
นายกฯ เผย 22 ธ.ค.นี้ เตรียมชม ศึกชิงแชมป์โลกมวยไทย พร้อมดันเป็น Soft Power สร้างอาชีพ – ขายสินค้า – ต่อยอดอาชีพได้
วันนี้ (8 ธ.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลัง นายพิมล ศรีวิกรม์ กรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา นำผู้บริหาร One Championship พร้อม ร.ท. สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ “บัวขาว บัญชาเมฆ” และคณะเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี
นายเศรษฐา กล่าวว่าไม่มีใครปฏิเสธได้ว่ามวยไทยเป็น Soft Power อันดับต้นๆ ของประเทศไทย เป็นกิจกรรมที่มีคำว่าไทยอยู่ด้วย และมวยไทยให้คุณค่า Soft Power ความเป็นไทยเยอะ ตัวอย่างค่ายมวยไทยในประเทศอังกฤษมีประมาณ 5 – 6 พันแห่ง จึงเป็น Soft Power อันดับหนึ่งที่ถูกส่งไปทั่วโลก มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล มีการถ่ายทอดสด รวมไปถึงการขายสินค้าและอุปกรณ์ เช่น กางเกงมวย นวม ที่ทำประโยชน์ให้ประเทศไทย กีฬามวยไทยถึงแม้นักมวยจะอายุมากถึง 41 ปี เหมือนบัวขาว ถ้ารักษาตัวดี ก็ยังสามารถเป็นความหวัง และแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ ที่อยากเข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมมวยไทย
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า คนไทยอยากมีอาชีพที่มั่นคง เพราะหากย้อนไป 30 – 40 ปีที่แล้ว อาชีพนักมวยมีระยะสั้น อายุนักมวยที่ขึ้นชกก็สั้นบางคนแค่3 – 4 ปี แต่หากดูแลตัวเองดีอายุ 40- 50 ปี ก็ยังขึ้นชกได้ หากไม่อยากชกต่อ ก็สามารถเอามวยไทยไปบรรจุในกิจกรรมอื่น เช่น ในวิชาพละศึกษา หรือตั้งค่ายมวยในต่างประเทศ และจะเป็นช่องทางขยายอาชีพให้กับนักมวยไทย เช่นเดียวกับนักฟุตบอล ที่ไปเป็นโค้ช หรือผู้ฝึกสอนให้กับหลายสโมสร เป็นการต่อยอดอาชีพที่มั่นคงสร้างรายได้ต่อไป จากนี้จะเป็นการคิกออฟ Soft Power อันดับ 1 ของประเทศได้
นายเศรษฐากล่าวว่ารายการ One Championship มีการถ่ายทอดสดและมีผู้ชมหลายร้อยล้านคน ทำให้แปลกใจ เหตุใดมีผู้ชมจำนวนมาก ทำให้คิดว่ามวยไทยเป็น Soft Power ที่มีศักยภาพสามารถไปได้อีกไกลมาก และทำรายได้ให้ประเทศ โดยเชื่อมโยงไปกับการท่องเที่ยว เช่น เกาะสมุย จ. สุราษฎร์ธานี และ จ.ภูเก็ต มีการเข้าแคมป์เรียนมวยไทย ขณะที่เวทีมวยราชดำเนิน เวทีมวยลุมพินี เป็นศูนย์รวมขนาดใหญ่ใครอยากเรียนชกมวยก็มาเยี่ยม จึงต้องมีการส่งเสริม โดยในวันที่ 22 ธ.ค. นี้ จะมีการแข่งขันศึกชิงแชมป์โลกมวยไทย ที่เวทีมวยลุมพินี และถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ผมจะถือโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชมการแข่งขันด้วย
สำหรับแนวทางที่รัฐบาลจะผลิตนักมวยเพื่อส่งเสริมให้เป็น Soft Power นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องมีหลายด้าน ทั้งการดูเรื่องตรวจคนเข้าเมือง ที่ต้องประสานกระทรวงการต่างประเทศเพราะมีนักมวยไทยหลายคนอยากไปสอน และตั้งค่ายมวยในต่างประเทศ แต่ใช้วีซ่านักท่องเที่ยวทำให้ผิดกฎการเข้าเมือง ขณะที่คนที่สนใจ กิจกรรมมวยไทย และอยากเข้ามาเรียนมวยไทย ทางกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทย ต้องอำนวยความสะดวกให้คนที่เข้ามาคนที่เข้ามา
ส่วนปลายทางของมวยไทยนั้น อยากให้มวยไทยไปทั่วโลก หรือให้นักท่องเที่ยว และนักมวยต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย นายเศรษฐา กล่าวว่า ที่ถามมาเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่เราอยากสร้างรายได้เสริมให้คนที่ต้องการมาทำกิจกรรมมวยไทย ตั้งแต่ผู้ผลิตกางเกงเจ้าของสนามมวย การท่องเที่ยว สำคัญที่สุดคือต่อยอดอาชีพให้นักมวยไทย