‘วิโรจน์’ อุบตอบชื่อพรรค-หัวหน้าพรรคใหม่ เชื่อกระแสซื้อตัว สส.เป็นเพียงหมาหยอกไก่
วันนี้ (8 ส.ค.67) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีอดีตพรรคก้าวไกลที่จะเปิดตัวพรรคใหม่ในวันพรุ่งนี้ โดยระบุว่าไม่ได้มีการเช็กชื่อ สส.แต่เป็นการเช็กหัวใจ พูดคุยกันและน่าจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพร้อมกัน ส่วนชื่อพรรคใหม่ขอให้รอ เพราะตนเองก็ยังไม่รู้ยืนยันได้ว่าชาวพรรคก้าวไกลจะไปที่ใหม่โดยพร้อมเพรียงกัน
ขณะที่กระแสการซื้อตัว สส.เชื่อว่าทุกคนรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอธิบายยากในแง่ของความยุติธรรม พรรคก้าวไกลมาจากประชาชน 14 ล้านเสียง ทุกคนตระหนักดีว่างูเห่าในอดีตที่หักหลังความไว้วางใจของประชาชน และมีจุดจบเป็นอย่างไร ทุกคนตระหนักอยู่ในใจ ปัจจุบันอุณหภูมิทางการเมืองไม่มีความจำเป็นต้องซื้อตัว เหมือนรัฐบาลชุดก่อนที่เสียงปริ่มน้ำ เชื่อว่าเพื่อน สส.ในรอบนี้จำนวนมาก ผ่านการทำงานร่วมกับพรรคเป็นระยะเวลานาน ทำให้รู้ใจกันมากขึ้น มั่นใจจะไม่มีปัญหาอย่างที่ทุกคนกังวล และไม่ต้องฝากถึงคนที่จะซื้อตัว สส.เขาคงเลิกซื้อไปแล้ว เป็นเพียงการโยนหินถามทาง หมาหยอกไก่ ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องไม่จริง เพราะไม่คิดว่าจะซื้อ สส.ไปทำไมน่าจะเป็นการทาบทามอย่างที่เคยเป็นมา ”ได้ก็ดี ฟรีก็เบิ้ล“ พอไม่ได้รับเสียงตอบกลับก็เงียบไป
ส่วนที่ไม่ทิ้งเวลารีบเปิดตัวพรรคใหม่ เป็นเพราะต้องการให้ สส.ในพรรคไปด้วยกันทั้งหมดนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า เราตกลงร่วมกันว่าเราจะแสดงความมุ่งมั่น และประชาชนมั่นใจกับการขับเคลื่อนอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกล มีการตกลงเรื่องแผนสำรองไว้นานแล้ว หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจะร้อยรักดวงใจ แล้วก็ไปอย่างพร้อมเพรียงกัน เหมือนกับทางหนีไฟ เมื่อเกิดเหตุการณ์ก็มีปุ่มเรียกฉุกเฉินแล้วทุกคนก็เดินไปพร้อมกัน
สำหรับหัวหน้าพรรคคนใหม่ที่หลายคนมองว่าจะเป็นนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ขอให้รอแถลงอย่างเป็นทางการดีกว่า โดยคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น ต้องเป็นคนที่ขับเคลื่อนอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกลต่อไปได้อย่างมั่นคง พรรคก้าวไกลเคารพความหลากหลายทางเพศวิถี และเรื่องอื่น ๆ คงไม่มีการล็อคสเปคอย่างแน่นอน และคงไม่เปรียบเทียบกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค ที่สร้างมาตรฐานไว้สูง เพราะหัวหน้าแต่ละคนก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ไม่ใช่เรื่องที่จะเอาหัวหน้าพรรคคนที่ 2 และคนที่ 3 มาเปรียบเทียบกัน
นายวิโรจน์ เปรียบหัวหน้าพรรคคนใหม่เหมือนนวนิยายกำลังภายในจีน ประมุขของพรรคมีกำลังภายในที่ล้ำเลิศ ในแต่ละแขนง สำเร็จเก้าเอี้ยง สำเร็จเก้าอิม บางคนมีหมัดมังกร 18 ท่า บางคนมีไม้ตีสุนัข บางคนมีท่าไม้ตายที่เป็นเอกลักษณ์ ยืนยันว่ากำลังภายใน กำลังภายในและวิชาต่าง ๆ ของหัวหน้าพรรคล้ำเลิศ สส.เราเป็นศิษย์บู๊ตึ๊ง ได้รับการถ่ายทอดกำลังภายในไม่ต้องห่วงว่ากำลังภายในจะถดถอย
ส่วนการเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก จะส่งคนลงชิง สส.อย่างแน่นอน และตนเองจะไปช่วยหาเสียงด้วย แต่ขออุบชื่อไว้ก่อน โดยคนที่จะลงสมัคร เป็นคนที่ทำงานกับพรรคมานาน ขณะที่วิบากกรรมพรรคก้าวไกลที่ 44 สส.ที่ถูกสอบจริยธรรมอยู่นั้น มองว่าพรรคการเมืองที่พยายามสร้างการเปลี่ยนแปลงและผลักดันให้ประเทศพัฒนาต่อไปข้างหน้า ส่วนมากก็จะมีวิบากกรรมเช่นนี้ คนที่สร้างวิบากกรรมอยากให้ประเทศไทยเป็นเหมือนเดิม เมื่อเรารู้ว่าเขาสร้างวิบากกรรมเพื่อต้องการเช่นนี้ เราจะไม่ยอมให้พวกเขาได้สิ่งนี้ เราจึงต้องสร้างระบบพรรคการเมืองเพื่อพัฒนาประเทศไปข้างหน้า หากพรรคถูกผูกไว้กับคนหนึ่งคนการจะกำจัดทำได้ง่ายมาก แต่หากพรรคการเมืองร้อยรักกับประชาชน ให้ความสำคัญกับอุดมการณ์ต่อให้บุคคลนั้นสูญสลายหายไป แต่พรรคการเมืองก็สามารถเคลื่อนไปได้ตามครรลอง
เมื่อถามว่าวิบากกรรมการยุบพรรคครั้งนี้หวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า คาดหวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายในทางปฏิบัติได้หากพวกเราร่วมมือกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยด้วยการร่วมกันแก้ไข พ.ร.บ. เพื่อจัดสรรอำนาจที่พอเหมาะพอสมควรให้กับองค์กรอิสระ เพราะองค์กรอิสระที่มีมีอำนาจที่มากขนาดนี้ก็ถูกตั้งคำถามจากสังคมว่าการตรวจสอบถ่วงดุลยังอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมหรือไม่ และยึดโยงกับประชาชนมากน้อยเพียงใด
เมื่อถามว่าการทำงานในสภาโดยเฉพาะการผลักดันกฎหมายของอดีต สส.ก้าวไกล หลังจากนี้จะเสียเปรียบหรือไม่ เพราะไม่มี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่แล้ว นายวิโรจน์บอกว่าคนที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งรองประธานสภาต้องมีความเป็นกลาง และการขับเคลื่อนกฎหมายต่างๆของพรรคก้าวไกล เราพยายามชี้แจงและสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน พรรคก้าวไกลเราพยายามทำทุกอย่างให้มีความโปร่งใสและดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่ครบ 4 ปี ก็เข้าไปกากบาทในคูหา 3 วินาทีแล้วมอบอำนาจให้กับนักการเมือง
“หากมีสังกัดพรรคใหม่แล้ว ก็คงจะจัดกิจกรรมสมาชิกสัมพันธ์เหมือนเดิม โดยเฉพาะการแก้ไขและเสนอพระราชบัญญัติต่างๆก็จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นมากขึ้น เพราะฉะนั้นรองประธานสภาคนที่ 1 จะเป็นใครเราก็ทำงานได้เหมือนเดิม”