นายกฯ พอใจธนาคารรัฐ ให้ความช่วยเหลือ ปชช. และผู้ประกอบการ
นายกฯ พอใจธนาคารรัฐ ให้ความช่วยเหลือ ปชช. และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวม 6.8 ล้านราย สินเชื่อ 1.35 ล้านล้านบาท
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีพึงพอใจต่อผลการดำเนินงานของสถาบันการเงินของรัฐ 6 แห่ง ประกอบด้วย 1.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) 2.ธนาคารออมสิน 3.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 4.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) 5.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) และ 6.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ที่ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลให้ความช่วยเหลือประชาชน และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านมาตรการต่างๆ
ตัวเลขจากสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ รายงานว่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 สถาบันการเงินของรัฐ ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการรวม 6.8 ล้านราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อรวม 1.35 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายละเอียดตามโครงการความช่วยเหลือ ดังนี้
- โครงการสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการ มีจำนวนสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติแล้ว 44,466 ล้านบาท 17,147 ราย เฉลี่ยอนุมัติสินเชื่อต่อรายอยู่ที่ 2.59 ล้านบาท
- โครงการพักทรัพย์ พักหนี้ ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายจากการกู้ยืมเงิน และให้สามารถกลับมาประกอบธุรกิจเมื่อมีศักยภาพในอนาคต โดยมียอดภาระหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือรวม 3,441 ล้านบาท 53 บัญชี
- โครงการช่วยเหลือลูกหนี้ ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 958,025 ล้านบาท 2,250,854 บัญชี
- โครงการให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง มีการอนุมัติสินเชื่อแล้ว 346,656 ล้านบาท 4,590,483 ราย แบ่งเป็น สินเชื่อสำหรับภาคธุรกิจ 280,805 ล้านบาท 89,334 ราย และสินเชื่อสำหรับรายย่อย 65,851 ล้านบาท 4,501,149 ราย
- โครงการความช่วยเหลือลูกหนี้ ผ่านทางด่วนแก้หนี้ จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 29,101 ราย สามารถให้ความช่วยเหลือแก้ไขหนี้ได้สำเร็จถึง 81.84%
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯให้ความเชื่อมั่นว่า แนวทางการดำเนินงานของสถาบันการเงินของรัฐ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ยังคงเป็นไปตามแนวทางที่รัฐบาลให้ไว้คือ การลดภาระทางด้านการเงิน เพิ่มสภาพคล่อง และปรับโครงสร้างหนี้ให้กับประชาชน ผู้ประกอบการ และภาคธุรกิจ อีกทั้งพร้อมพิจารณาตรึงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำให้นานที่สุด หรือหากมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นตามคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพื่อบริหารต้นทุนการดำเนินงาน ก็จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ให้น้อยที่สุดเพื่อลดผลกระทบภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้า ประชาชน และผู้ประกอบการ
“นายกรัฐมนตรี พึงพอใจที่ได้เห็นธนาคารของรัฐ มีบทบาทสำคัญในการเป็นที่พึ่งทางการเงิน ช่วยประคับประคองสภาพคล่องของประชาชนและภาคเอกชน ในยามที่ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบจากโควิด19 อย่างไรก็ตาม นายกฯยังได้ฝากธนาคารฯพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะออกมาตรการเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และผู้ประกอบการที่ยังคงได้รับผลกระทบทางรายได้ หรือธุรกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เพื่อให้ก้าวผ่านสถานการณ์ตรงนี้ และกลับมามีความเข้มแข็งทางการเงิน สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามปกติ” นางสาวรัชดา กล่าว