‘อนุทิน’ ขอบคุณ ส.ส.ทุกพรรคช่วยดัน พ.ร.บ.กัญชา สภาฯ รับหลักการผ่านฉลุย
‘อนุทิน’ ขอบคุณ ส.ส.ทุกพรรคช่วยดัน พ.ร.บ.กัญชากัญชง ให้ กมธ.พิจารณาแก้ไขค่าธรรมเนียม ลดลง หรือ ไม่จัดเก็บ ในการนำไปใช้ระดับครัวเรือน วางเป้า ให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ย้ำ หลังการปลดล็อก ต้องใช้เพื่อการแพทย์ เศรษฐกิจ เท่านั้น สภาฯ รับหลักการ ผ่านฉลุย
วันนี้ (8 มิ.ย. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม ได้พิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ…. ที่เสนอโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฐานะส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและคณะ เสนอ และร่างพ.ร.บ. ส่งเสริมการใช้ประโยชน์กัญชา กัญชง พ.ศ… เสนอโดยนางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ และคณะเสนอ
นายอนุทิน ระบุว่า ขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้อภิปรายแสดงความคิดเห็นและนำเสนอข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาร่างกฎหมาย ทำให้ตน และคณะผู้ที่ร่วมเสนอร่าง พ.ร.บ. ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะเป็นแนวทางในการให้พี่น้องประชาชนได้นำกัญชามาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ และสุขภาพได้อย่างเหมาะสม และมีความเข้าใจที่ถูกต้อง หลายเรื่องที่ได้มีการอภิปรายในวันนี้ เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าของนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ จะได้นำเรื่องนี้ไปสื่อสารในกระทรวงสาธารณสุขให้มีการปรับปรุงในรูปแบบต่างๆ การปรับปรุงกฎเกณฑ์ ปรับปรุงระเบียบ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด
เช่น ประเด็นสำคัญคือเรื่องอัตราค่าธรรมเนียมท้ายร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ เราได้นำมาจากพระราชบัญญัติยาเสพติดเดิม ซึ่งจะต้องถูกปรับแก้ให้ลดลง
“หรือไม่มีการจัดเก็บเลยสำหรับประชาชนที่ปลูกใช้ในครัวเรือน” ประชาชนผู้ผลิตที่เป็นภาคธุรกิจการค้าอุตสาหกรรม เราจะจัดเก็บในอัตราที่เหมาะสม
ขอขอบคุณ ที่ทุกท่านได้กรุณาแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา ทั้งด้านบวกและด้านลบของพืชกัญชา กัญชง ทางเรื่องประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ และข้อน่าเป็นห่วง ใยถึงผลกระทบที่มีต่อประชาชน ในกรณีที่หากมีผู้นำไปใช้ในทางที่ไม่เป็นประโยชน์ ซึ่งการใช้กัญชาในทางที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมนั้น ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการปลดล็อกกัญชาให้พ้นจากการเป็นยาเสพติด ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่ตนได้ลงนามไป ซึ่งขอยืนยันหลักการนี้ต่อท่านประธานสมาชิกทุกท่าน ที่ได้กรุณาเห็นด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้
เราต้องการให้กัญชา และกัญชง เป็นพืชที่สร้างนวัตกรรม และสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน มีการวิจัยว่าตลาดกัญชาทั่วโลกในปี 2567 จะมีมูลค่ามากถึง 3.5 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่า 60% หรือมูลค่าประมาณ 2 ล้านล้านบาท จะเป็นสินค้าที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ ส่วนที่เหลือ อีกประมาณ 1.5 ล้านล้านบาทนั้น เป็นผลิตภัณฑ์ ที่จะนำไปใช้ผลิตสินค้าประเภทอาหารเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง และการพักผ่อนคลายเครียด นี่คือโอกาสของพี่น้องเกษตรกรไทย และผู้ประกอบการของไทยที่จะมีส่วนแบ่งในตลาดโลกนี้
ในปี 2564 ที่ผ่านมามูลค่าของกัญชา และการแพทย์ในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 7,200 ล้านบาท เป็นสัดส่วนน้อยมาก แสดงว่าเรายังมีโอกาสทางการตลาดและมีการมีโอกาสในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจสำหรับตลาดกัญชาในประเทศไทย เป็นโอกาสของพี่น้องเกษตรกรไทย และผู้ประกอบการของไทยที่จะมีส่วนแบ่งในตลาดกระทรวงกัญชาของโลกนี้ เกษตรกรผู้ปลูกกัญชา กัญชง ในฐานะผู้ผลิตวัตถุดิบของอุตสาหกรรมเหล่านี้ ย่อมได้รับประโยชน์มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
นี่คือสิ่งที่พวกเราทุกคนในสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ ในความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้แทนของบุคคลชาวไทยมีความต้องการ คือ การทำให้พี่น้องประชาชน ทั้งภาคเกษตรกร ภาคอุตสาหกรรมมีรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยมีสุขภาพดีขึ้น ทำให้ประเทศไทยลดภาระด้านงบประมาณ ลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศด้วยการผลิตยาจากพืชกัญชา ที่เรากำลังจะทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย
กฎหมายฉบับนี้จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญของการจะทำให้นโยบายของรัฐบาลในเรื่องการศึกษาวิจัยพัฒนา และการใช้กัญชา กัญชง และพืชสมุนไพรในทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และการสร้างรายได้ของประชาชน โดยกำหนดกลไกการดำเนินการที่รัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบทางสังคม ตามที่กฎหมายได้บัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เรากำลังจะร่วมกันปลดปล่อยกัญชาซึ่งเป็นสมุนไพรดั้งเดิมของไทย และมีการใช้ยาตามภูมิปัญญาของไทยมันยาวนานกว่า 300 ปี ถึงแม้ว่าในช่วงหลัง จะถูกคุมเอาไว้เหมือนถูกขังเอาไว้มามากกว่า 40 ปีไม่ให้คนไทยปลูก และใช้ประโยชน์จากกัญชา แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ยังมีคนไทยจำนวนมากยังใช้กัญชาเป็นสมุนไพรใช้เป็นเครื่องปรุงอาหาร ใช้ในครัวเรือน แต่ว่าต้องเป็นการใช้แบบลักลอบใช้ บางคนถูกจับกุมดำเนินคดีเพราะต้มน้ำมันจะดื่มเป็นยารักษาอาการปวดตัวเอง บางคนต้องถูกดำเนินคดีมาแจกน้ำมันกัญชาเพื่อไปรักษาอาการป่วยของผู้อื่น แต่ในวันพรุ่งนี้ พวกเขาจะไม่มีความผิดอีกต่อไป คนที่อยู่ในเรือนจำเพราะใช้กัญชารักษาโรคจะถูกปล่อยออกมาทุกคน
“ต้องขอกราบขอบพระคุณทุกท่าน และทุกส่วนราชการที่มีส่วนร่วมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล วันนี้เราได้เปลี่ยนกัญชาจากพืชเสพติดให้กลับมาเป็นพืชสมุนไพรนำกลับมาทำเป็นยาและนำกลับมาทำเป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตสินค้าที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และร่างกาย
สารสกัดจากกัญชา มีประโยชน์อย่างยิ่ง มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่กดดันให้เราประกาศให้กัญชาเป็นยาเสพติด กลับมีการวิจัยพัฒนา และผลิตสินค้าสุขภาพที่เกี่ยวข้องมากที่สุด เราเสียโอกาสไปมาก เราไม่ได้พัฒนาการใช้ประโยชน์จากกัญชาในการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านมาเนิ่นนาน เพราะถูกกฎหมายจำกัด ซึ่งเป็นการสูญเสียที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง
อยากเรียกร้องให้พวกเราทุกคนได้ร่วมกันพิจารณา ร่างพ.ร.บ.กัญชา ฉบับนี้ และตราออกมาให้เป็นกฎหมายของพี่น้องประชาชนเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างจริงจัง ทุกอย่างในโลกนี้ล้วนแล้วแต่มีส่วนดี และส่วนไม่ดี กัญชาก็เช่นเดียวกัน มีทั้งคุณ และโทษอยู่ที่เราจะต้องเลือกใช้ ส่วนที่เป็นคุณที่เป็นประโยชน์ และควบคุมสิ่งที่เป็นโทษ เราจะต้องทำให้ได้และพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่กำลังเสนอให้เพื่อนสมาชิกได้พิจารณานี้เรากำลังร่วมกันเขียนบทบาทใหม่ของกัญชาในประเทศไทยคือ การกำหนดให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จาก กัญชาในส่วนที่ดี และควบคุมไม่ให้มีการใช้กัญชาในส่วนที่เป็นโทษ
มั่นใจว่าพี่น้องประชาชนกำลังรอคอยกฎหมายฉบับนี้อยู่ ต้องขอกราบขอบพระคุณนะครับที่ทุกท่านได้มีส่วนเกี่ยวข้องสมาชิกทั้งหลายเห็นว่าจะมีประโยชน์กับพี่น้องประชาชนนะครับ ทำให้เป็น พ.ร.บ. ที่มีความสมบูรณ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ได้ผ่านการลงมติชั้นรับหลักการที่คะแนน เห็นด้วย 370 เสียง ไม่เห็นด้วย 7 เสียง งดออกเสียง 23 เสียง ไม่ลงคะแนน 0 เสียง