ศาลไม่ให้ประกัน ‘ยี – ลี่‘ 2 คู่หูเจ้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน

ศาลไม่ให้ประกัน ‘ยี – ลี่‘ 2 คู่หูเจ้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน ชี้ เป็นอาชญากรข้ามชาติ ตั้งองค์กรในไทยเพื่อเป็นฐานปฏิบัติการ ก่อภัยสังคม หากปล่อยเกรงหลบหนี – ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

วันนี้ (8 ก.พ. 68) ที่สน.หัวหมาก พนักงานสอบสวน นำตัวนาย ยี วานโยว (Mr.YE Wanyou) อายุ 29 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.784/2568 ลงวันที่ 5 ก.พ. 2568 และนายลี่ เว่ยเจีย (Mr.Li Weijie) อายุ 30 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.785/2568 ในคดีจัดหาบัญชีม้า และเป็นเจ้าของคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน ไปขออำนาจศาลอาญา ฝากขังในความผิดฐาน “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใดๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือยืมบัญชีเงินฝากหรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์เพื่อในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใดๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือให้ยืมหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้ในนามของบุคคลหนึ่งแต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้”

เบื้องต้นในชั้นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง อยู่ในความสนใจของประชาชนในสังคม หากได้รับการประกันตัวเกร็งว่าจะหลบหนี หรืออาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนส่งตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตามหมายจับศาลอาญา พร้อมตรวจยึดของกลางทรัพย์สินหลายรายการ รวมมูลค่า 18,910,040 บาท โดยชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ต่อมา ศาลพิจารณาคำร้องเเล้วอนุญาตให้ ฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน เนื่องจากต้องสอบพยาน และรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการให้ประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และการกระทำความผิดของผู้ต้องหามีลักษณะเป็นขบวนการ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์) และน่าเชื่อว่าจะเป็นการกระทำความผิดในลักษณะองค์กรข้ามชาติ โดยผู้ต้องหาทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด คนละ 300,000 บาท

จากนั้น ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งยกคำร้องผู้ต้องหาทั้งสอง โดยศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว มีลักษณะเป็นขบวนการ ของกลางจำนวนมาก เป็นภัยต่อสังคม ยากแก่การติดตามตัวมาลงโทษ และพนักงานสอบสวนคัดค้าน การประกันตัว เนื่องจากเป็นอาชญากรข้ามชาติ โดยตั้งองค์กรในประเทศไทยเพื่อเป็นฐานปฏิบัติการ หากปล่อยชั่วคราวอาจจะหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เสียหายต่อการพิจารณาคดี

ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องเช่นกัน โดยศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะเป็นขบวนการ ของกลางจำนวนมากเป็นภัยต่อสังคม ยากแก่การติดตามตัวผู้ร่วมกระทำผิดมาลงโทษ อีกทั้งพนักงานสอบสวนคัดค้านเกรงจะหลบหนีเป็นอาชญากรข้ามชาติ โดยตั้งองค์กรในประเทศไทยเพื่อเป็นฐานปฏิบัติการ หากปล่อยชั่วคราวอาจจะหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เสียหายต่อการพิจารณาคดี