‘รังสิมันต์‘ เผย ประชุม กมธ.มั่นคง ไม่ได้คำตอบถกปม ‘ทักษิณ‘ รักษาตัวชั้น 14
วันนี้ (7 พ.ย. 67) ที่อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงของรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กล่าวภายหลังประชุมข้อเท็จจริงด้านกระบวนการยุติธรรมที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า กรอบในการพิจารณา ประการแรกคือการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจเป็นการไปพักที่ถูกต้องหรือไม่ และเมื่อไปพักแล้ว การรักษาตัวระยะยาวเป็นการตัดสินใจของใคร และมีความชอบด้วยกฎหมายอะไรบ้าง
ในประเด็นที่ 1 และ 2 มีปัญหาค่อนข้างมากในการพิจารณา การที่นายทักษิณมีอาการแน่นหน้าอก ไปที่สถานพยาบาล ได้รับข้อมูลว่าคนที่มาดูอาการเป็นเพียงพยาบาล ยังไม่ถูกนำตัวไปที่โรงพยาบาลเลย โทรหาหมอที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์เพื่อปรึกษา และส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งไม่เคยทราบมาก่อนว่าเป็นกระบวนการปกติหรือไม่ เพราะไม่ใช่แค่กรณีของนายทักษิณคนเดียว ยังมีอีกหลายกรณีที่อาจจะเจ็บป่วยไม่สบาย และต้องการเข้าถึงการรักษาที่ฉุกเฉินแบบนี้ เราก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน
สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อคือช่วงเวลาตั้งแต่ที่นายทักษิณถึงสถานพยาบาล จนพิจารณาโดยพยาบาลที่หารือกับหมอ ส่งตัวนายทักษิณไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ใช้เวลาแค่ 21 นาที จากที่เราจับระยะทางจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไปโรงพยาบาลตำรวจ ใช้เวลา 17 นาที หมายความว่าระยะเวลาในการวินิจฉัยนายทักษิณมีแค่ 4 นาที ถือว่าเร็วมาก
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราได้รับคำอธิบายว่ามีการส่งตัวนายทักษิณ ดำเนินการโดย ผบ.เรือนจำ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกว่าทำไมบทบาทของหมอโรงพยาบาลราชทัณฑ์น้อยมากในการให้ความเห็นเรื่องนี้ วันนี้ไม่มีตัวแทนจากโรงพยาบาลตำรวจโดยอ้างว่าติดภารกิจ ซึ่งรองนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตร. ให้สัมภาษณ์ว่าการที่นายทักษิณรักษาตัว ไม่ใช่การตัดสินใจของ รพ.ตร. แต่เป็นของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งราชทัณฑ์ให้คำตอบว่า เป็นการตัดสินใจจากหมอเจ้าของไข้ ไม่แน่ใจว่าเป็นการตัดสินใจของใคร ไม่มีใครยืนยันกับเราได้
หากสองกรณีไม่ได้ข้อยุติ จะถูกตั้งคำถามว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ หากไม่ป่วยจริง ความรับผิดชอบจะไม่ได้อยู่เพียงราชการ แต่นายทักษิณอาจจะเกี่ยวข้องกับการแสดงบทบาทให้หลงเชื่อว่าตัวเองเจ็บป่วย การที่นายทักษิณไปอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ การรักษาตัวในห้องพิเศษมีค่าใช้จ่ายวันละ 8,500 บาท เมื่อคำนวนแล้วค่าใช้จ่ายจะเกิน 1 ล้านบาทจึงมีคำถามว่าสรุปแล้วใครจ่าย ซึ่งเราก็ไม่ได้คำตอบ
อย่างไรก็ตาม ความสงสัยของสังคมกรณีชั้น 14 ก็คงมีอยู่ต่อไป ส่วนจะเชิญใครในครั้งหน้ายังไม่ได้ตัดสินใจ เบื้องต้นยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ กมธ.เห็นน่าจะมีการพูดคุย ยืนยันว่ามีความจำเป็นที่จะหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป เชื่อว่าศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทุกฝ่ายต้องมีส่วนช่วยให้กระบวนการยุติธรรมได้รับความเชื่อมั่นอย่างมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
