‘อนุพงษ์’ เล็งแก้กฎหมายคุมปืนเข้มงวด สอบใบใหม่ทุก 3-5 ปี นิรโทษกรรมปืนเถื่อนเข้าระบบ
วันนี้ (7 พ.ย. 65) ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) มหาดไทย ร่วมประชุมวุฒิสภา เพื่อชี้แจงในกระทู้ถามเรื่องการควบคุมอาวุธปืน หลังจากพบการก่อเหตุอาชญากรรมร้ายแรงด้วยอาวุธปืนในหลายกรณี ซึ่งตั้งถามโดยนายอำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
พลเอก อนุพงษ์ ชี้แจงว่า มาตรการควบคุมอาวุธปืนตามกฎหมาย ต้องทำเรื่องขอซื้อกับเจ้าหน้าที่นายทะเบียน ซึ่งจะถูกตรวจสอบคุณสมบัติผู้ครอบครองว่ามีความครบถ้วนหรือไม่ เช่น ไม่ต้องโทษจำคุกตามกฎหมายอาญา เป็นบุคคลบรรลุนิติภาวะ ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ ไม่มีการประพฤติชั่วร้ายแรง
พลเอก อนุพงษ์ เปิดเผยว่า มีแนวคิดที่จะปฏิบัติให้รัดกุมมากขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น ต้องมีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ใช่คนที่มีสติฟั่นเฟือน และอาจต้องมีการรับรองพฤติกรรมโดยบุคคล เช่น นายจ้าง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บังคับบัญชา และต้องมีการตรวจสอบเป็นระยะๆ เช่น 3-5 ปี เพราะคนที่ขออนุญาตซื้อและใช้อาวุธปืนนั้น นานวันอาจจะเปลี่ยนไป เพราะยุ่งเกี่ยวกับการพนัน ยาเสพติด อบายมุข ดื่มสุรา ขาดสติ ดังนั้น การขออนุญาตครั้งเดียวพิสูจน์ไม่ได้ จึงต้องมีการรับรองโดยบุคคล
พลเอก อนุพงษ์ ยังชี้แจงด้วยว่าสถิติการก่อเหตุอาชญากรรมจากอาวุธปืนปี 2565 พบว่า เป็นปืนที่ไม่จดทะเบียนถึง 98.53% ดังนั้น ต้องเร่งแก้ปัญหาปืนเถื่อน อาทิ ปืนไทยประดิษฐ์ ปืนดัดแปลง ที่ถูกนำไปก่ออาชญากรรมมาก ดังนั้น การพุ่งเป้าแก้ปัญหา คือการนำปืนเถื่อนให้เข้าระบบ อาจจะออกกฎหมายให้นำมาคืนเหมือนที่เคยปฏิบัติ เช่น ให้นำมาคืนโดยไม่มีความผิด หากสามารถจดทะเบียนได้ จะอนุญาตให้ขึ้น ขณะเดียวกันต้องปรับปรุงบทลงโทษ
ขณะที่การตรวจสอบการขายอาวุธปืนผ่านช่องทางออนไลน์นั้น ตามกฎหมายไม่สามารถทำได้ หากไม่มีใบอนุญาต เจ้าหน้าที่ตำรวจและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อยู่ระหว่างการดำเนินการ
“ถ้าไม่มีโทษที่แรงพอ คนจะไม่ให้ความสำคัญ ต้องแรงกว่านี้ ปัจจุบันมีโทษปรับ 2,000 – 20,000 บาท จำคุก 1-10 ปี ดังนั้น ต้องเพิ่มโทษให้แรงเพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่กล้า ส่วนคนที่พกปืนไปในสถานที่ต่างๆ นั้น ตามกฎหมายต้องได้รับอนุญาต ซึ่งการจะให้ใบพกไปนั้นยากมาก และให้ปีต่อปี หากพกโดยไม่ได้รับอนุญาต ง่ายๆ คือ เจ้าหน้าที่รัฐต้องเข้มงวดดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ข้าราชการทหาร ตำรวจ บุคคลทั่วไป คำถามที่ว่าจะทำอย่างไรกับคนที่พกปืนไปโดยไม่ขออนุญาต เจ้าหน้าที่ต้องไปไปจับกุม” พลเอก อนุพงษ์ กล่าว
แฟ้มภาพ