‘พรรณิกา​ร์’ เชื่อหาก ‘ก้าวไกล’ ถูกยุบไปต่อไม่สะดุด​ หากไม่ยุบเป็นการติดปีกติดหาง

‘พรรณิกา​ร์’ ขอบคุณ​ประชาชนให้กำลังใจล้นหลาม​ ย้อนถามทำไมต้องต้องมีประสบการณ์​ยุบพรรค​ มองไม่เกิดประโยชน์​เสียเวลาเปล่า​ เชื่อหากถูกยุบไปต่อไม่สะดุด​ หากไม่ยุบเป็นการติดปีกติดหางก้าวไกล

วันนี้ (7 ส.ค. 67) นางสาวพรรณิกา​ร์ วานิช​ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อม และกิจกรรมของพรรคก้าวไกลในวันนี้ว่า​ โดยกิจกรรมแรก ที่จะเกิดขึ้น ในช่วง 13.00 น คือเลคเชอร์สาธารณะ ว่าด้วยเรื่องศาลรัฐธรรมนูญและการยุบพรรค​ ซึ่งไม่ใช่พูดเฉพาะคดีพรรคก้าวไกล แต่จะพูดถึงการขยายขอบเขตอำนาจ ของศาลรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการยุบพรรคอย่างต่อเนื่อง แล้วจะเปิดให้มีการซักถามจากสื่อมวลชนและประชาชน ทั้งเรื่องข้อกฎหมายและการเมือง

หลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยจบ เวลา 18.00 น. จะมีการแถลงข่าว โดยนายพิธา​ ลิ้มเจริญรัตน์​ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค​ และ นายชัยธวัชร​ ตุลาธน​ หัวหน้าพรรค ซึ่งวันนี้ สส.จะยังคงทำหน้าที่ปกติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรโดยไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินทางเข้าที่ทำการพรรค และจะมีการปราศรัยกับประชาชนที่ลานจอดรถบริเวณตรงข้ามพรรคที่จัดเตรียมไว้ โดยกิจกรรมทั้งหมดจะจบในเวลา 22.00 น เนื่องจากมีการขออนุญาตไว้แค่นั่น เพราะเกรงใจผู้ที่อยู่อาศัยในละแวกใกล้เคียง และขอความร่วมมือประชาชน ที่จะเดินทางมาที่พรรคในช่วงเย็นหลังเลิกงาน จำเป็นต้องยุติกิจกรรม ไม่เกิน 22.00 น.​

นางสาวพรรณิกา​ร์ ยังกล่าวถึงความประทับใจต่อประชาชนที่สนใจเข้าร่วมฟังการแถลง ซึ่งเมื่อเปิดลงทะเบียนเต็มภายใน 1 นาที โดยใครมาถึงก่อน จะได้สิทธิ์ในการเข้ารับฟังการแถลงจากแกนนำ ส่วนประชาชนที่เดินทางมา ขอให้ติดตามฟังจากพื้นที่ที่จัดให้ และจะได้ฟังการปราศรัยจากทั้งแกนนำ​ และ สส.​อย่างแน่นอน

ขณะเดียวกันนางสาวพรรณิกา​ร์ ยังเปรียบเทียบความรู้สึกการยุบพรรคระหว่างอนาคตใหม่และก้าวไกลว่า ความรู้สึกแรก​ คือ​ ความแค้น​

“ต้องยอมรับความรู้สึกแรกว่ามันแค้นนะ มันเป็นความแค้น ว่าความฝันความต้องการ ของพวกเรามันเรียบง่าย กับการตั้งพรรคการเมือง เพื่อประเทศไทยที่เท่าเทียมกัน​ เท่าทันโลก หากคนไทยเท่าเทียมกันพาประเทศไทยไปก้าวทันโลก สร้างสังคมที่เสมอภาคเท่าเทียม และสร้างประเทศไทย ที่อำนาจสูงสุดคือประชาชน มันไม่ได้สุดโต่ง มันไม่ใช่ความฝันที่ทะเยอทะยาน เป็นสิ่งที่หลาย ๆ ประเทศเขาก็ทำกันได้ โดยไม่ต้องเป็นประเทศที่ร่ำรวย แต่สำหรับประชาชนคนไทย คนกลุ่มหนึ่งที่ลุกขึ้นมาทำพรรคการเมืองที่จะทำตามความฝันที่เรียบง่ายแบบนี้ และเมื่อไปบอกกับประชาชนก็มีคนที่มีความฝันแบบเดียวกัน และอยากทำให้มันเป็นจริง จาก 6 ล้านเป็น 14 ล้าน มันยากนักหรือที่จะเกิดสิ่งนี้ ทำไมไม่ได้รับอนุญาตให้เกิดขึ้น ทำไมเราต้องขออนุญาตพวกเขา ที่จะเกิดสิ่งนี้ขึ้นในเมื่อเราบอกว่าประเทศนี้เป็นประชาธิปไตย ประชาธิปไตยหมายความว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน​ เพราะฉะนั้นความแค้นนั้นไม่ใช่ว่า พรรคของเราถูกยุบแต่เป็นความแค้นที่เรารู้สึกอัดอั้นตันใจ” นางสาวพรรณิการ์กล่าว

นางสาวพรรณิการ์ ยังระบุอีกว่า ความฝัน ที่เรียบง่ายนี้ทำไมมันเป็นไปไม่ได้ จะต้องขออนุญาตใครจากประเทศนี้​

ส่วนมีการเตรียมทางออกไว้แล้วหรือไม่ นางสาวพรรณิกา​ร์ ระบุว่า​ ต้องถามพรรคก้าวไกลว่าเตรียมไว้กี่แนวทาง แต่ในฐานะคนที่เคยถูกยุบพรรคมาก่อน เชื่อมั่นว่ามีการเตรียมพร้อมกับทุกกรณีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“หากวันนี้ไม่ยุบพรรค ก้าวไกลก็คงจะไปต่อทะยานไปข้างหน้า เอาเวลา​ เอาทรัพยากร​ เอาความรู้ เอาสมาธิ​ เอาความคิดไปทำงาน ให้เป็นประโยชน์กับประชาชน การสู้คดียุบพรรค ไม่มีอะไรเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เป็นเรื่องเสียเวลาเปล่ามาก ทำไปไม่ได้เกิดอะไรที่ดีต่อประเทศ มันเป็นการต่อสู้ที่ไม่รู้ว่าทำไมเราต้องทำเรื่องนี้ด้วย​ มันเสียเวลา​ ถ้าไม่ยุบจะทำให้พรรคก้าวไกลติดปีกติดหาง มีเวลาไปทำประโยชน์ให้กับประชาชนมากขึ้น แต่ถ้ายุบขึ้นมาพูดแบบนี้ก็แย่ คนมันมีประสบการณ์อยู่แล้ว ไม่รู้ทำไมเราต้องมีประสบการณ์ เรื่องของการยุบพรรค ไม่ควรจะเป็นเรื่องปกติ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย” นางสาวพรรณิการ์กล่าว

นางสาวพรรณิกา​ร์ ยังกล่าวอีกว่าครั้งที่แล้วอาจจะฉุกละหุก ตั้งรับยากลำบาก กว่าจะตั้งพรรคก้าวไกลได้ใช้เวลา 1 เดือน แต่ครั้งนี้เชื่อว่า ไม่ใช้เวลานาน พรรคก้าวไกลสามารถไปต่อได้ทันที​ เป็นความเชื่อ เตรียมพร้อมไว้แค่ไหน เป็นเรื่องของก้าวไกลตนเองไม่สามารถพูดได้

อย่างไรก็ตาม บริเวณรั้วฝั่งตรงข้ามพรรค มีการนำเสื้อที่สกรีนพรรคอนาคตใหม่ ที่เปรียบเหมือนประชาชนที่คอยสนับสนุนพรรคตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ มาจนถึงพรรคก้าวไกล มาแขวนบริเวณรั้ว พร้อมกับสโลแกนถึง “รถจะเก่า แต่อนาคตใหม่” รวมถึงกลุ่มแฟนคลับได้นำเสื้อ แก้วน้ำ หมวก กระเป๋า ร่ม ที่มีโลโก้พรรคก้าวไกลมาวางจำหน่าย อีกทั้งมีการเตรียมอาหารเพื่อดูแลมวลชนและสื่อมวลชน ประกอบไปด้วยเมนู ขนมจีนน้ำพริกน้ำยาปลาหมอคางดำ จากนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กรุงเทพฯ เขต 27 พรรคก้าวไกล มาเลี้ยงต้อนรับด้วย