POLITICS

‘ธนกร​’ ย้อน​ ‘พิธา’​ เอาเวลาไปชี้แจงปมถือหุ้นสื่อฯ หลังจ่อเช็คบิล​ พลเอกประยุทธ์​

‘ธนกร​’ ย้อน​ ‘พิธา’​ เอาเวลาไปชี้แจงปมถือหุ้นสื่อฯ หลังจ่อเช็คบิล​ พลเอกประยุทธ์​ มอง​ ‘ปิยบุตร​’ เก่งสร้างวาทกรรม​ หลังปูดวลี​ ตุลาการภิวัฒน์ -​ นิติสงคราม​ มั่นใจคนไทยเชื่อมั่นกระบวนการศาล

วันนี้ (7 มิ.ย. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการตรวจสอบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะอดีตหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. เกี่ยวกับการกระทำรัฐประหาร และการออกคำสั่งมาตรา 44 ว่า วันนี้ตนเองคิดว่านายพิธาก็เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี ก็ควรจะเตรียมตัวไปเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ควรคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายค้านอยู่ ที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลเพราะว่าวันนี้ต้องยอมรับว่า พลเอกประยุทธ์ก็มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และตามรัฐธรรมนูญ และที่ผ่านมาตนเองก็เชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ บริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และพลเอกประยุทธ์ก็พร้อมให้ตรวจสอบอยู่แล้ว แต่หน้าที่การตรวจสอบรัฐบาลที่ผ่านมาก็มีองค์กรอิสระหลายองค์กรตรวจสอบอยู่แล้ว

ฉะนั้นหากต้องการตรวจสอบ ต้องรู้จักบทบาทและหน้าที่ของตนเอง คิดว่าวันนี้ท่านเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี จะทำนโยบายให้สำเร็จได้อย่างไร เนื่องจากบางนโยบายก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ อาทิ การปรับขึ้นค่าแรง 450 บาท พร้อมกับมองว่านายพิธาควรจะเป็นนายกรัฐมนตรีให้เหมือนที่พลเอกประยุทธ์เป็น ไม่ใช่เป็นนายกรัฐมนตรีของคน 15 ล้านเสียง ที่เลือกท่านมา แต่ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน

นอกจากนี้นายพิธาควรไปเตรียมการชี้แจงเรื่องกฎหมาย หรือปัญหาการถือหุ้นสื่อมากกว่า ไม่ใช่จะมาบอกว่าจะเช็คบิลรัฐบาล ซึ่งเรื่องหุ้นสื่อ ตนเองไม่ขอไปยุ่ง แต่ท่านก็ควรมีทีมที่จะชี้แจง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้มีใครทำให้เกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้นจากตัวของท่านเอง ซึ่งพวกของตนเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นจึงเชื่อว่ากระบวนการต่างๆ คงต้องเดินหน้าไป และเป็นเรื่องที่นายพิธาต้องเตรียมการมากกว่า ที่จะมาบอกว่าจะมานั่งไล่เช็คบิลพลเอกประยุทธ์ เชื่อว่าประชาชนคนไทยทราบอยู่แล้วว่าพลเอกประยุทธ์ทำประโยชน์อะไรให้ประเทศมากว่า 7-8 ปี ฉะนั้นถ้าหากอยากจะตรวจสอบก็ดำเนินการไป ซึ่งตนก็พร้อมที่จะช่วยพลเอกประยุทธ์ชี้แจงอยู่แล้ว

ส่วนพลเอกประยุทธ์ จะหวั่นไหวในกรณีที่จะถูกตรวจสอบหรือไม่ นายธนกร ระบุว่า คิดว่าพลเอกประยุทธ์เป็นคนดี ความดีก็จะคุ้มครอง แต่เชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ไม่ได้กังวลหรือรู้สึกอะไร และเมื่อวานนี้หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ ก็ยังมีท่าทีที่ยิ้มแย้มและหัวเราะ ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด ซึ่งพวกเราก็ให้กำลังใจพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งก็ต้องปล่อยให้พักร่วมรัฐบาลดำเนินการกันไป พร้อมยืนยันว่าตนเองก็ไม่ได้อยากจะออกมาชี้แจงตอบโต้อะไร แต่เป็นเรื่องที่มันจะต้องชี้แจง

เมื่อถามว่าการขุดเรื่องเก่าขึ้นมาจะถือเป็นการบ่มเพาะความขัดแย้งเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายธนากร กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องคิด ตนเองจึงบอกว่าคนที่จะเป็นรัฐบาล ไม่ได้เป็นฝ่ายค้านแล้ว การตรวจสอบมันเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน และขณะเดียวกันการบริหารจัดการองค์กรอิสระก็เป็นผู้ตรวจสอบอยู่แล้ว รวมถึงขณะนี้เองก็มีภาคประชาชนได้มีการยื่นร้องเรียนไปยังหน่วยงานอิสระอยู่แล้ว ซึ่งพลเอกประยุทธ์เองก็พร้อมที่จะไปชี้แจงหน่วยงานต่างๆ เช่นกัน พร้อมกับมองว่าไม่ใช่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ในการตรวจสอบ ยกเว้นแต่เป็นเรื่องของการบริหารบางอย่างที่ต้องแก้ไข ซึ่งท่านอาจจะมองว่าไม่ดี อาจไม่ทำต่อหรืออะไรก็ได้ พร้อมกับมองว่าควรเป็นเช่นนั้นมากกว่า

เมื่อถามว่าขณะนี้พรรครวมไทยสร้างชาติจะยื่นร้องว่าที่ส.ส.พรรคอื่นต่อ กกต.หรือไม่ นายธนกร ระบุว่า น้อย ไม่ค่อยมี เพราะจากที่ดูบางพื้นที่มีคะแนนที่ห่างค่อนข้างมากจึงไม่ได้ร้องอะไร แต่ ว่าที่ ส.ส.ของพรรค 36 คนก็มีการพูดคุยกันตลอด โดยเฉพาะเลขาธิการพรรคนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เพราะฉะนั้นตนเองคิดว่าหากการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ พวกเราก็พร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาลต่อไป

เมื่อถามต่อว่าในคำร้องเรียนดังกล่าวจะนำไปสู่การถอดถอน การให้ใบเหลืองหรือใบแดงของ กกต.ได้หรือไม่ นายธนกร ระบุว่าก็ไม่แน่เหมือนกัน ซึ่งตนเองคิดว่าพรรคที่โดนร้องเรียนน่าจะเป็นพรรคอื่นมากกว่า เนื่องจากการยื่นร้องเรียนของพรรครวมไทยสร้างชาติมีไม่มาก พร้อมยืนยันว่าแต่หากมีการเลือกตั้งซ่อมพรรครวมไทยสร้างชาติเองก็พร้อม

พร้อมกันนี้นายธนกร ยังกล่าวถึงกรณี ที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ระบุว่า ตุลาการภิวัฒน์ และนิติสงครามอาจทำให้เป็นการบั่นทอนความน่าเชื่อถือของศาล ว่า การสร้างวาทกรรมเป็นเรื่องที่นายปิยบุตรเก่งทำให้ดูน่าสนใจ เชื่อว่าพี่น้องคนไทยยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของศาลอยู่ ตอนนี้เราอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันก็ต้องยอมรับ ไม่ใช่ว่าเมื่อศาลตัดสินถูกใจก็ว่าศาลดี หรือเมื่อศาลตัดสินตรงข้ามก็บอกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็เห็นว่ามีมาทุกยุคทุกสมัย ดังนั้น ตนเองจึงเชื่อว่าไม่มีตุลาการภิวัฒน์ เพราะมองว่าไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลเมื่อทำผิดก็โดนลงโทษเหมือนกันหมดเหมือนที่ผ่านมา ยืนยันว่าไม่มีการใช้องค์กรในการกลั่นแกล้งใคร รัฐบาลนี้ไม่สามารถแทรกแซงองค์กรอิสระได้เหมือนกับรัฐบาลในอดีต องค์กรศาลยังเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนอยู่เราก็ต้องยอมรับ

ทั้งนี้นายธนกรมองว่าไม่สามารถอ้าง 15 ล้านเสียงที่โหวตเลือกพรรคก้าวไกลมากดดันให้ละเว้นการใช้กฎหมายได้ วันนี้ต้องมองประชาชนกว่า 70 ล้านคน ไม่ใช่มองแค่ 15 ล้านเสียง ซึ่งภายหลังจากทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ก็สามารถดำเนินการตั้งรัฐบาลไป ไม่จำเป็นต้องมาสร้างปัญหาให้กับประเทศ การเคลื่อนไหวชุมนุม การข่มขู่จะลงถนน เพื่อให้ได้ดั่งใจ ตนเองมองว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังคงมีความสุขในประเทศที่สงบ อย่าก้าวไปสู่จุดนั้นเลยขอให้ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม เพราะคนไทยต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรมของศาล

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรียังคงยืนยันว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม นี้ ซึ่งยังอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการกำชับเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย หรือไม่ นายธนกร ยืนยันว่าไม่มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ แล้วตนก็ไม่ขอก้าวล่วงในกรณีนี้เพราะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ และนายทักษิณยืนยันจะกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ท่านก็กลับมาได้ไม่มีปัญหาอะไร

Related Posts

Send this to a friend