POLITICS

‘สาธิต’ ยอมรับประเด็น ‘ไพรมารีโหวต’ ต้องถกกันให้ตกผลึก

‘สาธิต’ เผย กมธ.กฎหมายลูก เดินหน้าพิจารณาเรื่องคุณสมบัติผู้ก่อตั้งพรรคการเมือง การันตีวันนี้ลงมติจบ ยอมรับประเด็น ‘ไพรมารีโหวต’ ต้องถกเถียงกันให้ตกผลึก ขณะเห็นใจ-เข้าใจ ‘หมอระวี’ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ คว่ำแก้ รธน.บัตรเลือกตั้งสองใบโมฆะ

วันนี้ (7 เม.ย. 65) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ระบุว่า วันนี้ จะพิจารณาและลงมติเรื่องคุณสมบัติผู้ก่อตั้งพรรคการเมือง โดยย้ำว่ากรรมาธิการจะพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนเปิดสมัยการประชุม โดยหลังสงกรานต์จะขยายเวลาการประชุมไปจนถึงเวลา 16.30 น. ซึ่งยังเหลืออีกประมาณ 2 ประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งพิจารณาหาข้อยุติโดยเร็ว

ส่วนการที่นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2 ใบเป็นโฆษะ ในวันพรุ่งนี้นั้น นายสาธิต ยืนยัน ไม่กระทบกับการพิจารณากฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ พร้อมเข้าใจพรรคเล็ก เข้าใจในสถานการณ์ และมองว่า นายแพทย์ระวี อยากจะรักษาสถานภาพตัวเอง เพราะได้ก่อตั้งพรรคเล็กขึ้นมา แต่เมื่อสถานการณ์มาถึงขณะนี้ จึงต้องเดินหน้าทำให้สถาบันพรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง เป็นที่ยอมรับ ดังนั้น การนับคะแนนที่ถูกคำนวณต้องเปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่พรรคเล็กจะใช้สิทธิ์ก็เข้าใจได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญไม่เกี่ยวกับกฎหมายลูกที่พิจารณาอยู่ เพราะเรื่องที่ นพ.ระวียื่นเกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ ที่แก้ไขให้เป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ตามปกติ

สำหรับประเด็นร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ในเรื่องการจัดทำไพรมารีโหวต ยังประเด็นสำคัญ เพราะในหลักรัฐธรรมนูญ คือ การใช้คำว่าการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่ในแง่การปฏิบัติที่ลงมือทำจริงของแต่ละพรรคการเมือง ก็เห็นตรงกันว่า มีปัญหา และที่สำคัญการมีส่วนร่วมของประชาชนมีหลายมิติ การทำไพรมารีโหวต ถ้าสะท้อนความต้องการของคนในเขตเลือกตั้งนั้น ก็จะเป็นการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง แต่ถ้าทำเพื่อให้ครบเงื่อนไขตามกฎหมาย ก็อาจจะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การพิจารณาต้องมีการถกเถียงกันให้ตกผลึก ถ้าเขียนไว้เข้มจนเกินไป และพรรคการเมืองไปทำไม่ได้ ก็จะเป็นช่องว่างทำให้พรรคการเมืองมีความหมิ่นเหม่ว่า ทำไม่ครบเงื่อนไข และเกิดข้อบกพร่องในการทำผิดกฎหมาย เมื่อเขียนกฎหมายแล้ว ต้องให้เป็นไปตามเจตนารมณ์และทุกฝ่ายปฏิบัติได้จริงไม่เกิดเงื่อนไข

Related Posts

Send this to a friend