‘ชาวบ้านเขาค้อ’ ร้องผู้นำฝ่ายค้านปมพิพาทที่ดินทำกิน ระหว่าง ‘ปชช.-กองทัพ’
‘ชาวบ้านเขาค้อ’ ร้อง ‘ผู้นำฝ่ายค้าน’ ปมพิพาทที่ดินทำกิน ระหว่าง ‘ปชช.-กองทัพ’ ขอให้แก้ปัญหาที่ดิน หลังรัฐไม่ทำตามสัญญาสุดท้ายทำเป็นที่ราชพัสดุ บังคับให้ประชาชนเช่าที่ตัวเอง พร้อมขอภาครัฐ ทบทวนมติ ครม.
วันนี้ (7 มี.ค. 67) ตัวแทนประชาชน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ นำโดยนางบุปผา จันทร์เพ็ง และกลุ่มทหารผ่านศึก เดินทางมาที่อาคารรัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือถึงนายชัยธวัช ตุลาธน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร 2 คณะ ได้แก่ กมธ.การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กมธ.การทหาร เกี่ยวกับกรณีพิพาทเรื่องที่ดินทำกินระหว่างประชาชนและพื้นที่อ้างสิทธิ์ของกองทัพ และขอความอนุเคราะห์ให้แก้ไขปัญหาที่ดิน 4 ตำบล อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
นางบุปผา ตัวแทนประชาชน อ.เขาค้อ กล่าวว่า ตนเองเป็นตัวแทนของชาวบ้าน 4 ตำบล เนื่องจากคนในพื้นที่มีบางส่วนได้รับใบจองหนังสือแสดงการครอบครองที่ดินชั่วคราว (น.ส.2 ก.) แต่มีบางส่วนยังไม่ได้รับ ทำให้ประชาชนเดือดร้อน สืบเนื่องจากเมื่อปี 2564 ที่ชาวบ้านได้รับข้อมูลมากขึ้น ทำให้รู้ว่าความเป็นมาของพื้นที่มีความเจ็บปวดที่ภาครัฐละเลยพวกเรา ไม่ทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย ตั้งแต่สมัยก่อนที่ในพื้นที่ยังมีผู้ก่อการร้าย ซึ่งรัฐให้พวกเราประชาชนเป็นแนวกันชน เป็นอาสาสมัครทหารพราน และราษฎรทั้ง 4 ตำบล ได้รับการจัดสรรที่ดินตามกฎหมายที่ดินแปลงใหญ่ทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2520-2527 จนกระทั่งปี 2529 ได้มีการประกาศทับที่ของประชาชนเป็นพื้นที่ป่าสงวน และประกาศทับที่อีกครั้งในปี 2530
“ราษฎรขอยืนยันสิทธิ์การครอบครอง ประชาชนอยู่ก่อนการประกาศเป็นป่าสงวน หมู่บ้านทั้ง 35 หมู่บ้าน อยู่มาก่อนการประกาศเป็นป่าสงวน หรืออุทยานแห่งชาติ“ ตัวแทนประชาชนกล่าว
ตัวแทนประชาชนกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (ค.ร.ม.) ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อขอให้ทบทวน ยกเลิก แก้ไข ประชาชนไม่ต้องการที่ราชพัสดุ หรือที่ดินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) เพราะประชาชนได้สิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดินอยู่แล้ว เราไม่ได้ทำผิด ภาครัฐต่างหากที่ทำผิดต่อประชาชน ประชาชนทำตามขั้นตอนทุกอย่าง เพื่ออยู่ทำมาหากินในพื้นที่ ขอให้ภาครัฐทำตามข้อกฎหมายในโครงการจัดสรรที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินด้วย เนื่องจากมีพระราชบัญญัติและกฤษฎีกาแนบท้ายกฎกระทรวงที่ยังไม่ถูกยกเลิก ซึ่งเราได้ทำหนังสือส่งรายงานถึงภาครัฐต่างๆ ออกไปแล้ว แต่ภาครัฐยังนิ่งเฉยอยู่ จึงขอให้ สส. นำเรื่องนี้เข้าสู่สภาฯ แทนประชาชนที่เดือดร้อน เราต้องการเอกสารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน จะได้เป็นหลักประกันในครอบครัว ให้ลูกหลาน ไม่ใช่ให้เรามาเช่าที่เราเอง ที่ราชพัสดุเราไม่ต้องการ
ด้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งแต่เดิมมีการต่อสู้ขัดแย้งกันระหว่างรัฐไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ฝ่ายความมั่นคงของไทยมีกลยุทธ์ ในการชักชวนให้พี่น้องประชาชนจำนวนหนึ่ง ทั้งที่เป็นคนไทยและกลุ่มชาติพันธุ์เข้ามาร่วมกับกองทัพ เพื่อต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ในลักษณะของทหารพรานและเป็นแนวกันชน โดยให้สัญญากับประชาชนว่าจะจัดสรรที่ดินให้และมอบเอกสารสิทธิ์ เพื่อตั้งชุมชนให้มีความมั่นคงต่อไป หลังเสร็จภารกิจต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม เมื่อสงครามความขัดแย้งยุติลง ทางฝ่ายความมั่นคงหรือกองทัพ ซึ่งเคยขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้เพื่อจัดสรรให้กับประชาชน ก็ได้คืนที่ดินให้กับกรมป่าไม้ในภายหลัง ขณะที่ประชาชนก็ไม่ได้รับที่ดินจัดสรรตามที่สัญญาไว้ จนถึงทุกวันนี้ กระทั่งนโยบายของรัฐบาลที่สืบเนื่องมาจากชุดที่แล้ว ว่าประชาชนซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ป่า จะต้องมาทำสัญญาเช่าที่ดินกับที่ราชพัสดุ ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ว่าเหตุใดต้องมาเช่าที่ดินของตัวเอง ทั้งที่กองทัพเคยสัญญาว่าจะจัดสรรให้เป็นการตอบแทน
ทั้งนี้ ยังมีปัญหาในลักษณะเดียวกันที่ได้ติดตามมา และมีแนวทางแก้ไขปัญหาไว้แล้ว แต่น่าเสียดายที่เราเป็นฝ่ายค้าน ก็จะช่วยผลักดันให้มีการแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด ทั้งกรรมาธิการการทหาร และกรรมาธิการการที่ดิน ก็จะต้องทำงานร่วมกัน ปัญหาลักษณะนี้ไม่ได้มีกลุ่มเดียว แต่ยังมีปัญหาของพี่น้องชาวม้ง อ.เขาค้อ ที่เคยอาสาสมัครร่วมต่อสู้กับกองทัพไทย และไม่ได้รับจัดสรรที่ดินเช่นเดียวกัน รวมถึงกลุ่มที่น้องชาติพันธ์ุที่ไปร่วมกับฝั่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพไปเจรจาให้ยุติการต่อสู้ แล้วจะจัดสรรที่ดินเพื่อสร้างชุมชนไว้ให้ ก็ไม่ได้รับที่ดินตามสัญญาเช่นเดียวกัน
“เห็นได้ว่าไม่ว่าจะเคยอยู่ฝั่งไหน ตอนนี้พี่น้องประชาชนอยู่ฝ่ายเดียวกันหมดแล้ว คือได้รับผลกระทบจากการไม่ทำตามสัญญาของฝ่ายกองทัพและความมั่นคง ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านก็เห็นด้วยและมีความเข้าใจ จะทำงานร่วมกันกับกรรมาธิการการทหาร แล้วก็กรรมาธิการที่ดิน เพื่อผลักดันให้มีการแก้ปัญหาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ในฐานะฝ่ายค้าน” นายชัยธวัช กล่าว
