‘ปิยรัฐ‘ เผย จนท.รัฐ – สื่อท้องถิ่นถูกข่มขู่หลังตรวจสอบยางพารานำผ่าน อ.สังขละบุรี
‘ปิยรัฐ‘ เผย เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรถูกข่มขู่ห้ามใส่ชุดข้าราชการ-นักข่าวท้องถิ่นถูกชักปืนขู่ หลังตรวจสอบยางพารานำผ่าน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี หวังรัฐบาลแก้ปัญหาเป็นรูปธรรม เอาผิดทั้งข้าราชการ-เอกชนที่มีเอี่ยว
วันนี้ (7 มี.ค. 67) นายปิยรัฐ จงเทพ โฆษกคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ แถลงข่าวผลการลงพื้นที่ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตามข้อร้องเรียนปัญหายางพารานำผ่าน พร้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 4-5 มีนาคมที่ผ่านมา
นายปิยรัฐ กล่าวว่า เราได้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน ด้วย ร.อ.ธรรมนัส เป็นตัวแทนรัฐบาลไปร่วมประชุมด้วยกำชับต่อหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องหลังจากได้สอบถามจนได้ข้อยุติเบื้องต้น พบว่าเรายังไม่มีข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ ในฐานะการเป็นผู้นำผ่านยางพาราจากเมียนมาไปยังด่านสะเดา จ.สงขลา เพื่อไปสู่ประเทศมาเลเซีย ดังนั้นสิ่งที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2565 ที่มีการนำผ่านยางพารา จนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ ไม่เคยมีกระบวนการหรือไม่มีความชัดเจนต่อเรื่องนี้กระบวนการที่ผ่านมาทั้งหมดจึงเกิดคำถามว่าเป็นกระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่หรือชอบด้วยกระบวนการวิธีการทางต่างประเทศในการนำพาสินค้าหรือไม่อย่างไร
ดังนั้น ร.อ.ธรรมนัส จึงมีความเห็นร่วมกับคณะกรรมาธิการ มีคำสั่งให้ระงับการนำพายางพาราไปจนกว่าจะมีมติคณะรัฐมนตรี และจะนำเรียนผ่านคณะรัฐมนตรีโดย ร.อ.ธรรมนัส ไปยังกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศในการเจรจาทำข้อตกลงร่วมกันกับทางการเมียนมาในการดำเนินการนำผ่านยางพาราได้ถูกต้องตามบทบาทต่างๆ จึงเป็นที่ชัดเจนว่าสิ่งที่ทำมาแบบปี 2565 นั้นไม่มีระเบียบกฎหมายรองรับอย่างชัดเจน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ผลประโยชน์กับเรื่องนี้จะมีการดำเนินการอย่างถึงที่สุด
นายปิยรัฐ กล่าวว่า เราได้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าการนำผ่านยางพารานั้น มี 7 บริษัทด้วยกันที่ได้รับอนุญาตหรือได้รับการส่งเสริมให้นำยางพาราผ่านประเทศไทยไป โดยหนึ่งบริษัทจะได้รับโควตาหนึ่งบริษัทต่อ 6 รถบรรทุกพ่วงต่อวัน หมายความว่ามีมูลค่าต่อหนึ่งบริษัทกว่า 400,000-500,000 บาทต่อวันที่จะได้รับปันผลกำไรจากการประกอบการนี้ จึงทำให้มีเม็ดเงินสะพัดในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 5,000,000 บาทต่อวัน ซึ่งเป็นรายได้ของรัฐเพียงคันละ 500 บาทเท่านั้น
นายปิยรัฐ กล่าวว่า หลังจากกรรมาธิการได้เน้นย้ำและกำชับเรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนกระทั่งมีการสั่งระงับตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ทำให้ราคายางในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ และมีการความต้องการสั่งซื้อยางพาราจากประเทศไทยไปยังประเทศมาเลเซียมากขึ้นด้วย จึงหวังว่าการแก้ปัญหาครั้งนี้จะเป็นการช่วยเกษตรกรยางพาราและหวังให้รัฐบาลกำชับเรื่องการนำผ่านสินค้าอย่างถูกต้องในระเบียบระหว่างประเทศด้วย รวมถึงดำเนินการต่อผู้กระทำความผิดทั้งทางราชการและในทางเอกชน
โดยในสัปดาห์หน้า คณะกรรมาธิการจะลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา-ลาว มีแหล่งเศรษฐกิจพิเศษที่อยู่บริเวณ สปป.ลาว ตรงข้าม จ.เชียงราย เป็นแหล่งอาชญากรรม ทั้งเรื่องการค้ามนุษย์ ค้ายาเสพติด การพนันผิดกฎหมาย ได้รับคำร้องเรียนจากประชาชนจึงจะลงพื้นที่ไปติดตามเรื่องนี้ในวันที่ 10-12 มีนาคมนี้
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกระแสข่าวการที่ผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ถูกข่มขู่ นายปิยรัฐ ระบุว่า มีรายงานจาก ร.อ.ธรรมนัส ว่ามีเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมวิชาการเกษตรในพื้นที่ ถูกข่มขู่ว่าห้ามใส่เครื่องแบบข้อราชการในฐานะกรมวิชาการเกษตรไปทำหน้าที่ตรวจสอบยางพารา โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้กำชับหน่วยงานความมั่นคงดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่แล้ว นอกจากนั้นยังมีกรณีการข่มขู่ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ ซึ่งตรงกับวันนักข่าวด้วย โดยมีการใช้อาวุธปืนข่มขู่ดักหน้ารถของผู้สื่อข่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดผู้กระทำอยู่ โดยหลังจากนี้กรรมาธิการจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด