‘ก้าวไกล’ ผิดหวัง เพื่อน สส.ในสภาฯ ปัดตกร่าง พ.ร.บ.แรงงาน

‘ก้าวไกล’ ผิดหวัง เพื่อน สส.ในสภาฯ ปัดตกร่าง พ.ร.บ.แรงงาน เพื่อพี่น้องประชาชน เสียดายคนไทยไร้ความเสมอภาค เดินตามหลังประเทศอื่นกว่า 10 ปี ยืนยันจะผลักดันกฎหมายต่อ แม้ไม่มีใครเห็นด้วย
วันนี้ (7 มี.ค. 67) นายเซีย จำปาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าว ณ อาคารรัฐสภา เกี่ยวกับการรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงานฉบับก้าวไกล ที่ตนเองและเพื่อน สส. พรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอ ซึ่งผลการลงมติ คือที่ประชุมเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงานฉบับก้าวไกล จำนวน 149 เสียง ไม่เห็นด้วย จำนวน 252 เสียง และงดออกเสียง จำนวน 1 เสียง เป็นผลให้ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงานของพรรคก้าวไกลไม่ผ่านการพิจารณาในวาระที่ 1
นายเซีย กล่าวว่า ตนเองในฐานะเป็นผู้ใช้แรงงานมากว่า 30 ปี นานเกินกว่าครึ่งชีวิตการทำงานของตนเอง ในฐานะที่เป็นผู้เสนอ พ.ร.บ. นี้ จึงอยากเรียนกับประชาชนผู้ใช้แรงงาน ว่า ตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากกฎหมายที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนทำงานทุกคนในประเทศไทยให้ดีขึ้นและสามารถลืมตาอ้าปากได้ด้วยหลักการทำงาน พักผ่อน ใช้ชีวิต ดังที่เพื่อนสมาชิกหลายคนได้อธิบายในที่ประชุมไปแล้วนั้น และยังขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมทุกรูปแบบการจ้างงาน รวมไปถึงไรเดอร์ ฟรีแลนซ์ และแรงงานอิสระ ซึ่งกฎหมายเปลี่ยนชีวิตคนทำงานที่จะช่วยยกระดับสร้างการดูแลคนทำงานให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลฉบับดังกล่าว แต่กลับไม่ได้รับความเห็นชอบ โดยมติจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ ตนเองรู้สึกเสียดายที่ประเทศไทยเสียโอกาสสร้างความเสมอภาคทางสังคม และเสียเวลาในการสร้างความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ อีกทั้งยังเสียโอกาสเพิ่มผลผลิตภาพการทำงานที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าและคุณค่าให้กับระบบเศรษฐกิจ และยังเสียดายที่คนทำงานในประเทศยังคงมีการคุ้มครองตามหลังนานาอารยประเทศ ที่เขาเดินนำหน้าพวกเราไปมากกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาที่สำคัญของผู้แทนที่มีความประสงค์ดีต่อคุณภาพชีวิตของคนส่วนใหญ่ในประเทศ
นายเซีย กล่าวทิ้งท้ายว่า รู้สึกผิดหวังที่บรรดาผู้แทนของประชาชนมองข้ามการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนทำงาน ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จะให้ความสำคัญแต่เพียงเสียงของเหล่านายทุน ขุนศึก เจ้าของกิจการ ที่จะได้รับผลกระทบจากด้านกฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับของพรรคก้าวไกล ด้วยการต้องร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวตั้งแต่วาระแรก ทั้งที่เป็นเพียงพื้นฐานที่คู่ควรต่อความเป็นมนุษย์ ซึ่งความรุนแรงของกฎหมายฉบับนี้เป็นเหมือนการเมืองขั้วตรงข้ามของพรรคก้าวไกล ที่ต้องการทำลายคะแนนเสียง ความเชื่อมั่นของชนชั้นแรงงานที่มีต่อพรรคก้าวไกล โดยไม่สนใจว่าเนื้อหาของกฎหมายฉบับดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนแรงงานมากน้อยเพียงใด ทั้งที่กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้แตะต้องหรือกล่าวถึงกองทัพ สถาบันพระมหากษัตริย์ หรือฟากสัตว์อนุรักษ์นิยม จารีตประเพณีแต่อย่างใด
“เรื่องเหล่านี้ดูเล็กน้อยสำหรับท่าน แต่สำหรับคนทำงานขึ้นค่อนประเทศเป็นเรื่องใหญ่หลวงที่จะพลาดโอกาสที่ดีของในร่างนี้ ซึ่งให้คำกล่าวที่ว่า “ชนชั้นใดคิดกฎหมาย ก็เพื่อรับใช้ชนชั้นนั้น” แม้ร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงานฉบับดังกล่าว จะไม่ผ่านการพิจารณาวาระที่ 1 แต่เราก็ยังคงเดินหน้าทำงานผลักดันกฎหมาย เพื่อเปลี่ยนชีวิตคนทำงานเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ที่เพิ่มอำนาจการต่อรองและโอบอุ้มดูแลคนทำงานในประเทศให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ขอให้ทุกคนเชื่อมั่น ยึดมั่นและร่วมกันต่อสู้ไปกับพวกเราด้วยการสมานฉันท์คนทำงาน” นายเซีย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตนเองมีความตั้งใจดันกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ แม้ท้ายที่สุด สส. จะไม่โหวตรับร่างที่ตนเองและเพื่อน สส. ได้ยื่น แต่ยังมีร่างของ นางสาววรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เกี่ยวกับร่างการลาคลอด 180 วัน และการคุ้มครองลูกจ้างของรัฐ ซึ่งหวังว่าในขั้นการพิจารณารายละเอียดจะมีการพูดคุยถึงการผลักดันให้ทุกคนที่ลาคลอด มีโอกาสลาได้ 180 วัน รวมทั้งลูกจ้างของรัฐก็จะได้สิทธิการคุ้มครองตามกฎหมายในร่างฉบับดังกล่าวด้วย ในส่วนของ SME สส.พรรคก้าวไกล ได้แถลงเรื่องนี้ในสภาฯ ว่า เราก็มีมาตรการดูแลพี่น้อง SME เช่นเดียวกัน
นายเซีย กล่าวว่า ส่วน สส. ที่ไม่รับร่างของพวกตนเอง อาจเห็นว่าปัญหาปากท้องของประชาชนแรงงาน เป็นเรื่องที่ไกลตัวของพวกเขา เพราะพวกเขาส่วนใหญ่ไม่ได้ผ่านกระบวนการ หรือไม่ใช่ลูกชาวบ้านคนธรรมดาอย่างพวกเราพรรคก้าวไกล ที่ส่วนใหญ่เป็นคนทำงาน จึงเข้าใจปัญหาพี่น้องแรงงานเป็นอย่างดีมาตลอด ว่าที่ผ่านมา แรงงานไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ด้วยเงื่อนไขของกฎหมายที่วางกรอบกำหนดไม่ให้เราเข้าถึงสิทธิด้านต่างๆ อาทิ ค่าจ้างขั้นต่ำ กระบวนการพิจารณาปรับค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งจะเป็นไปได้ยาก หากฝ่ายการเมืองไม่เห็นด้วย