POLITICS

‘กลุ่มทำทาง‘ ร้อง กมธ.สาธารณสุข จี้เปิดสถานบริการทำแท้งทั่วประเทศ

‘กลุ่มทำทาง‘ ร้อง กมธ.สาธารณสุข จี้เปิดสถานบริการทำแท้งทั่วประเทศ-เผยข้อมูลให้ประชาชนเข้าถึง หลังมีกฎหมายมากว่า 3 ปี แต่ผู้ให้บริการมีอคติด้านศีลธรรม ‘ทศพร‘ เห็นด้วย จ่อเชิญ สธ.หารือร่วมหลังจากนี้

วันนี้ (7 ก.พ. 67) กลุ่มทำทาง ยื่นหนังสือคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร โดยมี นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ประธาน กมธ.สาธารณสุขเป็นผู้รับหนังสือ เพื่อขอให้กรรมาธิการมีข้อเสนอถึงกระทรวงสาธารณสุขให้มีการบังคับใช้กฎหมายอาญามาตรา 301 ถึง 305 เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการทำแท้ง ซึ่งได้มีการบังคับใช้แล้ว ขอให้มีการเปิดบริการให้สามารถทำแท้งได้อย่างปลอดภัยทั่วประเทศ ทุกจังหวัด

พร้อมฝากไปถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้พูดออกสื่อว่าเรื่องการทำแท้งให้ลดลงเพราะต้องการเพิ่มประชากร จึงอยากขอเรียนท่านว่าการทำแท้งไม่ได้สวนทางกับการเพิ่มประชากร ปัญหาของประเทศไทยคือการเกิดน้อย ด้อยคุณภาพ เราต้องการลดการด้อยคุณภาพลง เราต้องเลือกว่าเราพร้อมแล้วมีลูก ถึงแม้จะมีการเกิดน้อยแล้วขอให้มีคุณภาพ ดีกว่าเกิดเยอะแล้วด้อยคุณภาพ และในมาตรา 305 (5) ของกฎหมายอาญาฉบับใหม่ มีการระบุถึงการปรึกษาทางเลือก หมายถึงผู้หญิงที่มีอายุครรภ์ 10 ถึง 12 สัปดาห์ ให้ผ่านการให้คำปรึกษา ให้พูดถึงสองทางเลือก คือสามารถทำแท้งได้อย่างปลอดภัย ทำอย่างไรบ้าง หรือหากต้องการจะให้ท้องต่อ หน่วยงานต่างๆจะมีอะไรสนับสนุนบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกันกับการเพิ่มคุณภาพการเกิด และกระตุ้นให้มีการเกิดอย่างมีคุณภาพ อย่างที่ นพ.ชลน่านต้องการ

กลุ่มทำทาง ยังขอให้กรรมาธิการให้คำแนะนำแก่กระทรวงสาธารณสุข เปิดสถานบริการทำแท้งปลอดภัยที่ได้รับการสนับสนุนจาก สปสช.ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงประกาศรายชื่อสถานบริการทำแท้งปลอดภัย เพราะจากการทำงานของกลุ่มต่างๆพบพบว่าผู้ ผู้ที่ต้องการเข้าถึงการบริการทำแท้งมากกว่าร้อยละ 70 ไม่มีเพียงพอเป็นค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการกับเอกชน และยังพบว่าการ เพิกเฉยละเลยต่อการดำเนินการการปฏิเสธที่จะจัดให้มีบริการตลอดจนการไม่ประกาศรายชื่อสถานบริการที่ให้บริการให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำแท้งปลอดภัยเป็นเพราะอคติส่วนตัวและความเชื่อด้านศีลธรรมของผู้ให้บริการที่เป็นอุปสรรคสำคัญของเรื่องนี้

ด้าน นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ประธาน กมธ.สาธารณสุข กล่าวว่า คณะกรรมาธิการให้ความสัมพันธ์เรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เรื่องการทำแท้งสมัยก่อนเป็นเรื่องลำบากมาก ต่อมาได้รับการยอมรับมากขึ้น เราจำเป็นต้องมีการอนุญาตให้สุภาพสตรีเลือกได้ว่า ตนอยากตั้งครรภ์ต่อหรืออยากยุติการตั้งครรภ์ ซึ่งในวันนี้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลโดยแพทย์

เท่าที่ทราบปัญหาพบว่า ยังมีปัญหาการเข้าไม่ถึงบริการ สิ่งนี้ทางคณะกรรมาธิการสาธารณสุข จะเชิญกระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย สปสช. และผู้ที่เกี่ยวข้อง มาปรึกษาหารือและจะชวนกลุ่มผู้ร้องเรียนหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาปรึกษาหารือกัน เพื่อผลักดันเรื่องนี้ส่งต่อให้เป็นนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ในการจะทำอย่างไรให้มีการเข้าถึงการยุตติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat