‘ธรรมนัส’ ลุยค้นแหลมฉบัง พบหมูเถื่อน 1 ตู้
‘ธรรมนัส’ ลุยค้นแหลมฉบัง พบหมูเถื่อน 1 ตู้ ชี้ หากพบเกี่ยวคดี 161 ตู้ จะแจ้ง DSI รับเป็นคดีพิเศษ
วันนี้ (6 ธ.ค. 66) ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง นำชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญานาคราช ลงพื้นที่ ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อติดตามการตรวจสอบการนำสินค้าเกษตรทางตู้คอนเทนเนอร์ ทางพืช ประมง และปศุสัตว์ เพื่อป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย
วันนี้ตรวจสอบทั้งหมด 5 ตู้จาก 25 ตู้ ซึ่งร่วมมือกับกรมศุลกากรสุ่มเปิดตู้ตรวจสินค้าที่ตกค้าง และไม่มีผู้แสดงตนเป็นเจ้าของ แต่มีการสำแดงบัญชีสินค้าทางเรือ ตู้แรกมีการสำแดงบัญชีเป็นเนื้อแก้มโค ไม่มีเจ้าของมาติดต่อตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 สภาพตู้คอนเทนเนอร์เมื่อเปิดออกมาพบว่าเนื้อเน่าเสีย และส่งกลิ่นเหม็น เนื่องจากเครื่องทำความเย็นเสียไปนานแล้ว
ตู้ที่ 2 มีการสำแดงบัญชีเป็นหอมแขก เมื่อเปิดตู้คอนเทนเนอร์ออกมา พบว่าเป็นหอมแขกมีรากขึ้นแล้วเนื่องจากถูกทิ้งไว้ตั้งแต่ ปี 2565 ตู้ที่ 3 มีการสำแดงว่าเป็นเนื้อปลาจวด แต่เมื่อเปิดตู้ออกมาพบว่าเป็นเนื้อปลาทูน่า ซึ่งถือว่ามีผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับ 5 เท่าของมูลค่าสินค้า ซึ่งตู้นี้มีมูลค่าอยู่ที่ 1 ล้านบาท
ตู้ที่ 4 เป็นเนื้อหมูสามชั้นนำเข้าจากบราซิล สำแดงรายการแล้วแต่ไม่มีเจ้าของมาแสดงตน จึงนับเป็นหมูเถื่อน ส่วนตู้ที่ 5 มีการสำแดงบัญชีว่าเป็นพริกแห้ง เมื่อเปิดมาพบว่าเป็นพริกแห้งจริง แต่พริกเป็นของต้องห้าม นำเข้าไม่ได้ ต้องขออนุญาตนำผ่าน ซึ่งกรณีนี้ไม่ผ่านตามกฎหมายถือเป็นสินค้าตกค้าง จึงต้องนำไปทำลาย
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่าสินค้าที่สำแดงรายการเท็จและตกค้างมีทั้งหมด 90 ตู้ เปิดแล้ว 74 ตู้ วันนี้เราเปิด 5 ตู้ เหลืออีก 20 ตู้ที่ต้องเปิดให้ครบ โดยจะประสานกับการท่าเรือฯ และกรมศุลกากรในการเปิดต่อไป ส่วนหมูเถื่อน 161 ตู้ เป็นเรื่องที่จบไปแล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษ และอยู่ระหว่างการขยายผลถึงต้นตอ
ทั้งนี้ 16 ตู้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษบอกว่าเป็นหมูเถื่อนรวมอยู่ใน 95 ตู้นี้ด้วย จากนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะประสานไปยังรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกรมศุลกากร เพื่อทำ MOU บูรณาการป้องกันและปราบปรามสินค้าทางการเกษตรนำเข้าราชอาณาจักรอย่างผิดกฎหมายร่วมกับกรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์ และกรมประมง
ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการสำแดงรายการเท็จจากหมูเถื่อนเป็นสินค้าภาคการประมงนั้น ผู้ที่เจตนากระทำความผิดหลีกเลี่ยงการเสียภาษี สำแดงรายการอย่างผิดกฎหมาย เป็นความรับผิดชอบของกรมศุลกากรและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ต้องบูรณาการร่วมกัน หากไม่ทำงานไปในทิศทางเดียวกันก็จะเกิดปัญหาอย่างที่เห็นอยู่
ทั้งนี้การเปิดตู้คอนเทนเนอร์ตรวจสอบแล้วพบหมูเถื่อนในวันนี้จะประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อทำการขยายผลต่อไป หากเกี่ยวข้องกับคดีหมูเถื่อนก็จะไปรวมอยู่ในคดีพิเศษ โดยการจำแนกว่าหมูเถื่อนที่ตรวจพบเกี่ยวข้องกับบริษัทชิปปิ้งใดเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบต่อไป
ร้อยเอกธรรมนัส ยืนยันว่าหมูเถื่อน 161 ตู้ถูกทำลายไปทั้งหมดแล้ว ไม่มีการปกปิด โดยสั่งการให้นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บันทึกวิดีโอทุกตู้ที่ทำลายไว้แล้ว และจะมีการแถลงอย่างเป็นทางการในเวลาที่เหมาะสม