เลขาธิการเพื่อไทย เผย อยากถก ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมวงเล็กก่อน

‘เลขาธิการพรรคเพื่อไทย’ เผย อยากคุยวงเล็ก ถก ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมก่อน มองเสนอญัตติตั้ง คกก. ศึกษา อาจตกผลึกได้เร็วกว่า

วันนี้ (6 ธ.ค. 66) ที่โรงแรม เดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ก่อนการประชุมสัมนาพรรคเพื่อไทย ว่า งานสัมมนาในวันนี้ จะมีกิจกรรมเพื่อละลายพฤติกรรมให้สมาชิกภายในพรรครู้จักกันดีมากขึ้น และมีการระดมสมองเรื่องทิศทางของพรรคเพื่อไทยในอนาคต ซึ่งในวันนี้จะไม่มีการพูดถึงเรื่องการเสนอกฎหมายเข้าสู่สภา จะเน้นละลายพฤติกรรมมากกว่า

ส่วนการเสนอร่างกฎหมาย พ.ร.บ. นิรโทษกรรมของพรรคเพื่อไทยที่จะเสนอประกบกับพรรคก้าวไกลนั้น นายสรวงศ์ ระบุว่า เท่าที่คุยกันอยากให้พูดคุยในการประชุมวงเล็กก่อน ซึ่งอาจเสนอญัตติในสภาเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จะทำให้ขับเคลื่อนได้เลยทันทีเมื่อมีการยื่นญัตติ แต่หากมีการยื่นกฎหมายเข้าไปในสภา ไม่แน่ใจว่าจะบรรจุเข้าสู่สภาเมื่อไหร่ ดังนั้น การตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้ จะตกผลึกได้เร็วกว่าและดีกว่า ซึ่งหากมีการยื่นประกบ ก็เป็นการยื่นในนามของพรรคเพื่อไทย

สำหรับรายละเอียดที่แตกต่างกันระหว่าง พ.ร.บ. สองฉบับนี้ นายสรวงศ์ ระบุว่า อยู่ในส่วนของทีมกฎหมายพรรคในการดำเนินการเรื่องนี้ โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้

เมื่อถามว่ามีความแตกต่างกันในเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 112 หรือไม่ นายสรวงศ์ ระบุว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็น พ.ร.บ. ที่ละเอียดอ่อน กระทบบุคคลหลายบุคคล เราผ่านผู้ชุมนุมมาแล้วหลายคณะ ทั้งผู้สูญเสีย และผู้ที่ได้ประโยชน์ เสียประโยชน์ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อาจมีหลายคนที่ไม่ได้ทำผิดโดยตรง และได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ ตนเองจึงมองว่า หากโยนเข้าห้องประชุมใหญ่ โอกาสที่ประธานสภาจะสั่งประชุมลับมีสูง พรรคเพื่อไทยจึงเห็นว่า หากเป็นไปได้ให้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมา เพื่อถกรายละเอียดเรื่องพวกนี้จะเร็วกว่าและตกผลึกได้ดีกว่า

ส่วนจะเสนอญัตติตั้งคณะกรรมการวิสามัญก่อน หรือเสนอร่างกฎหมายก่อนนั้น นายสรวงศ์ ระบุว่า ถ้าเสนอญัตติเลย ก็สามารถตั้งได้เลย แต่ถ้ารอยื่นกฎหมายเข้าไป ก็ไม่รู้จะบรรจุเมื่อไหร่ และจะบรรจุในสมัยนี้หรือไม่ แต่ถ้าตั้งขึ้นมา เราสามารถกำหนดระยะเวลาในการศึกษาได้ โดยให้ที่ประชุมเสนอศึกษาก่อน แล้วค่อยยื่นกฎหมายทีหลัง หรือทำสองอย่างพร้อมกันก็ได้ แต่ส่วนตัวมองว่า การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาขับเคลื่อนเร็วกว่า และทำได้ทันที