‘วราวุธ’ ชี้ ภารกิจ พม. ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนทุกเรื่อง

แม้ละเอียดอ่อน แต่เชื่อ 3-6 เดือนเห็นพัฒนาการ ย้ำ เบี้ยผู้สูงอายุ ยังมีเหมือนเดิม ไม่ต้องเป็นห่วง

วันนี้ (6 ก.ย. 66) เวลา 15:30 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการ เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง และศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตายาย จากนั้น ได้เข้าห้องทำงานรัฐมนตรีว่าการ ชั้น 9 โดยชุดโต๊ะทำงานประจำตำแหน่ง ตลอดจนชุดรับแขกต่างๆ นั้น นายวราวุธ ได้นำมาเองจาก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

ภายในห้อง ประดับตกแต่งด้วยรูปถ่ายครอบครัว ศิลปอาชา อยู่ทุกมุมห้อง โดยเฉพาะบนโต๊ะทำงาน ซึ่งเป็นรูป ภาพถ่ายนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีกำลังหอมแก้มนายวราวุธ ซึ่งนายวราวุธ อธิบายว่า เป็นช่วงสมัยที่ตนอายุ 12 ปี และต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ แต่นายบรรหารไม่ได้มาส่ง เนื่องจากเป็นวันแรกที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

นายวราวุธ กล่าวว่า ตนเองดีใจที่จะได้มาสานต่องาน ซึ่งบิดาเคยทำไว้ ได้มาดูแลประชาชนคนไทยทั้ง 66 ล้านคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กเยาวชนผู้สูงอายุ กลุ่มสตรีชาติพันธุ์ ผู้พิการ และกลุ่มความหลากหลายทางเพศ เราจะได้มีโอกาสทำงาน ดึงความร่วมมือ ศักยภาพของทุกคนเพื่อให้ทุกคนยืนอยู่ในสังคมอย่างมีเกียรติมีศักดิศรี และเท่าเทียมกัน

นายวราวุธ กล่าวว่า การทำงานในกระทรวง พม. เราจะต้องมาช่วยกันแก้ปัญหาของประชาชน มีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาโครงสร้างหลักของสังคมไทยทั้งสถาบันครอบครัว และคนทุกๆ กลุ่ม โดยข้าราชการของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีอยู่ทั่วประเทศ แต่งบประมาณที่ได้รับนั้นกลับสวนทางกับปริมาณภารกิจที่ต้องดูแล ซึ่งเราก็เห็นแล้วว่าวันที่ 1 ต.ค. 66 นี้คงจะไม่สามารถใช้งบประมาณปี 2567 ได้ทัน จึงถือเป็นเรื่องเร่งด่วน ภายในกระทรวงที่จะต้องเตรียมจัดทำงบประมาณ ปี 2567 เพื่อนำเข้าสู่สภาในวาระต่อไปให้เร็วที่สุด

ส่วนกรณีการแก้ปัญหาเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุที่ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลที่แล้ว นายวราวุธ กล่าวว่า อย่าเพิ่งตระหนก ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ทุกมาตราการเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เพียงกระทรวงเดียวคงไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ต้องปรึกษากับหน่วยงานต่างๆ กระทรวงอื่นๆ เนื่องจากมีขั้นตอนในการพิจารณา และที่สำคัญ เมื่อคุยกันเสร็จแล้วต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ตนเองจึงคิดว่าต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ กว่าจะได้ความชัดเจน ว่ามาตราการใหม่จะเป็นอย่างไรและหากสิ่งใดที่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ก็ขอให้มั่นใจว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เราจะไม่

นายวราวุธ กล่าวถึงสถาบันครอบครัวว่า เป็นสถาบันที่เล็กที่สุดแต่สำคัญที่สุด การที่มีสภาพสังคมที่อบอุ่นจากการที่มีครอบครัวอบอุ่นนั้น ตรงกับแนวทางของพรรคชาติไทยพัฒนาที่เป็นการคืนลูกหลานให้กับครอบครัว และเราจะคืนครอบครัวให้กับชุมชน และจะคืนชุมชนเหล่านั้นให้กับสังคมของแผ่นดินไทยของพวกเรา เพื่อให้มีความอบอุ่นใกล้ชิด และมีความเข้าใจถึงกลไกลของสังคมอย่างแท้จริง หากครอบครัว มีความอบอุ่นแข็งแรง ตนก็เชื่อว่าหลายปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทยจะลดน้อยถอยลงไปในที่สุด

นายวราวุธ กล่าวว่า ตนเองถือว่าภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ถือเป็นภารกิจเร่งด่วนทุกเรื่อง เริ่มต้นตั้งแต่ปัญหาเด็ก และปัญหาแต่ละช่วงวัยจนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งเราก็ต้องพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ ให้เป็นผู้ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ มีวิชาความรู้เพื่อนำมาเป็นกำลังสำคัญมาเป็นกำลังของสังคม โดย กระทรวงมีศูนย์บริบาลของผู้สูงอายุ รวมไปถึงภาคเอกชนให้ความสำคัญให้การบริการกับผู้สูงอายุเหล่านี้ ซึ่งเรานะต้องเร่งทำสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้น เป็นการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ปรับเปลี่ยนกระบวนความคิด การทำงาน จะเห็นพัฒนาการภายใน 3-6 เดือน อย่างแน่นอน

สุดท้าย นายวราวุธ เผย ว่าการเข้ากระทรวงการพัฒนาสังคมฯ วันนี้เป็นวันแรก ไม่ได้ถือฤกษ์อะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่รับทราบว่า เป็นวันดี กับคนที่เกิดปีฉลู ส่วนสิ่งที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลา 2 สิ่งคือ พระร่วงโรจนฤทธิ์ ซึ่งเป็นพระที่พ่อพกติดตัวอยู่ตลอดเวลาในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ อีกองค์คือ พญาครุฑ ซึ่งเป็นของแม่ (คุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา) มอบให้ติดตัว ทั้งนี้เป็น 2 สิ่ง ที่ตนเองนำติดตัวมาโดยตลอด ถือว่าไปไหน มีพ่อกับแม่ อยู่กับเราตลอดเวลา ทำให้อบอุ่น เปรียบเสมือนเป็นสถาบันครอบครัว

ทั้งนี้ ระหว่างที่ผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ข้าราชการบุคลากร รอต้อนรับ นายวราวุธ เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การพัฒนาสังคมฯ นั้น ปรากฎว่ามีเยาวชนชาย หญิง 2 คน มาดักรอพบ นายวราวุธ โดยประกาศเตือนว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯนั้น เป็นหน่วยงานที่เต็มไปด้วยปลาเน่า ขอให้นายวราวุธระวังว่าเข้ามาแล้วจะกลายเป็นปลาเน่าอีกตัว เพราะที่ผ่านมามีการคุกคามเด็ก แต่ไม่เคยได้รับการแก้ไข