POLITICS

วุฒิสภา มีมติเห็นชอบร่างงบเพิ่มเติม โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1.22 แสนล้าน

ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติเห็นชอบร่างงบเพิ่มเติม สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1.22 แสนล้านบาท

วันนี้ (6 ส.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา การประชุมวุฒิสภา (สว.) ที่ นายมงคล สุรัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ในวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จำนวน 1.22 แสนล้านบาท ภายหลังเปิดให้สมาชิกวุฒิสภา ได้อภิปรายเสนอแนะตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา

จากนั้น ในเวลา 16:31 น. ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบร่างงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท โดยที่ประชุมวุฒิสภา มีมติเสียงข้างมาก 139 เสียง ต่อ 38 เสียง ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพิ่มเติม กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาท ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำเสนอต่อวุฒิสภา โดยเป็นการพิจารณาแบบไม่ตั้งกรรมาธิการ ซึ่งมีผู้งดออกเสียง 18 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง ภายหลังได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วในวาระที่ 3

นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำว่า รัฐบาลมีความจำเป็นเร่งด่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ควบคู่กับการรักษาระดับการบริโภค และการลงทุนในประเทศโดยเร่งด่วน ไม่สามารถรองบประมาณปี 2568 ได้ โดยยืนยันว่า เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายวินัยการเงินการคลัง ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศ และเม็ดเงินจำนวนมาก จะไหลจากภาครัฐ ไปยังภาคเอกชน เกิดการสั่งซื้อสินค้า และบริการ และย้ำว่ารัฐบาลจะใช้จ่ายเงินภาษีของประชนชนให้มีประสิทธิภาพ กระตุ้นเศรษฐกิจให้เม็ดเงินไหลสู่ประชาชน และภาคธุรกิจ สร้างความเจริญเติบโตให้ดับประเทศ พัฒนาศักยภาพอย่างยั่งยืน และเป็นไปตามกฎหมาย

ขณะที่ การอภิปรายของ สว.นั้น มีสมาชิกวุฒิสภาหญิง 2 คน ที่เป็นเคยเป็นแม่ค้ามาก่อน ได้อภิปรายเกือบทั้งน้ำตา ตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดรัฐบาล จึงไม่แจกเป็นเงินสด เพื่อให้ประชาชน นำไปใช้จ่ายได้สะดวก และยังตัดพ้อที่อาชีพพ่อค้า แม่ค้า แทบจะไม่เคยได้รับการดูแลจากรัฐบาล เหมือนเกษตรกร หรือชาวนา ต้องอดทนอดกลั้นทำอาชีพดูแลครอบครัว รวมถึงยังตั้งข้อสังเกตเหตุใด จึงไม่แจกเงินอย่างเท่าเทียมถ้วนหน้า

นอกจากนั้น สมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ ยังกังวลว่า โครงการดังกล่าวของรัฐบาล จะเป็นการเอื้อนายทุน ทำประชาชนเสียนิสัยจากการแจกเงิน และยังเป็นการหาเสียงล่วงหน้าของรัฐบาล สร้างภาระจนจะทำประเทศเสียหาย

ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงข้อสังเกต และข้อสงสัยของสมาชิกวุฒิสภา โดยย้ำว่า รัฐบาล ได้ยืนยันว่า งบประมาณดังกล่าว เป็นไปตามกรอบกฎหมาย และวินัยการเงินการคลัง พร้อมยอมรับว่า รัฐบาล จำเป็นจะต้องมีการกู้หนี้เพิ่มเติม เพื่อเติมเงินใส่ในระบบเศรษฐกิจ และกระตุ้นเศรษฐกิจในการเดินหน้าโครงการ

ส่วนข้อสังเกตเหตุใดรัฐบาลไม่จ่ายเป็นเงินสดนั้น นายจุลพันธ์ ชี้แจงว่า กลไกที่รัฐบาลกำหนด เป็นกลไกลใหม่ ต่างจากอดีต ที่แจกเป็นเงินสด เพราะอาจทำให้ประชาชน ออมไว้ส่วนหนึ่ง ไม่ยอมใช้จ่าย ทำให้ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เต็มที่

ภายหลังที่วุฒิสภา ให้ความเห็นชอบเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพิ่มเติม กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาทแล้ว ประธานวุฒิสภา จะส่งร่างงบประมาณ กลับคืนไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ตามขั้นตอน และประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

Related Posts

Send this to a friend