POLITICS

‘วีระ’ เตือนโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ส่อเพิ่มหนี้ก้อนใหม่

‘วีระ’ ชี้ ปัญหาการจัดสรรงบรัฐบาลแฝงยอดชำระหนี้คงค้างรัฐวิสาหกิจ มอง อนาคตอาจเป็นปัญหาได้ เสนอเพิ่มเติมรายการชำระหนี้คงค้างรัฐวิสาหกิจอีกรายการให้เห็นตัวเลขแท้จริง เตือนโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ส่อเพิ่มหนี้ก้อนใหม่

วันนี้ (5 ก.ย. 67) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 22 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ในมาตรา 29 งบประมาณรัฐวิสาหกิจ นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณ 2568 ขึ้นอภิปรายแสดงเหตุผลที่เสนอตัดงบประมาณรายจ่ายของรัฐวิสาหกิจลง 10% คิดเป็นประมาณ 3.4 พันล้านบาท

นายวีระ ระบุว่า ในชั้นกรรมาธิการก็มีการตัดทอนลงไปอย่างมหาศาลอยู่แล้ว แต่ตนเองสงวนความเห็นเพื่อชี้แจงว่า การตัดรายจ่ายดังกล่าวเป็นเรื่องที่ตนเองไม่เห็นด้วย งบดังกล่าวเดิมรัฐบาลเสนอมา 6.9 หมื่นล้านบาท ในชั้นกรรมาธิการตัดทอนไป 3.5 หมื่นล้านบาท คงเหลือ 3.4 หมื่นล้านบาท พร้อมระบุว่า ขณะนี้เรามีรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 52 แห่ง ได้กำไร 35 แห่ง มีรายได้ประมาณ 4.4 ล้านล้านบาท มีกำไร 2.4 แสนล้านบาท นำส่งให้รัฐบาลล่าสุดเมื่อปี 2566 ประมาณ 1.7 แสนล้านบาท

แม้รัฐวิสาหกิจบางแห่งจะสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง เป็นสถาบันการเงิน แต่รัฐบาลมีภาระผูกพันต้องชดเชยรายได้ที่รัฐวิสาหกิจเสียไปเป็นเงินต้น และดอกเบี้ย แต่รัฐบาลกลับไม่ทำ รวมทั้งยังตัดลดรายการที่จะต้องให้รัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง เป็นเงินประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท เพื่อโยกไปเป็นงบกลางสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจ

อีกทั้ง นายวีระ ได้ยก พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ ที่กำหนดไว้ว่า อัตราส่วนระหว่างยอดค้างชำระที่สถาบันการเงินออกให้ก่อน อยู่ที่ 32% ปัจจุบันกรอบดังกล่าว โดยเพดานในการชดใช้เงินจะอยู่ที่ 1.2 ล้านล้านบาท สถานะของยอดคงค้างปัจจุบันอยู่ที่ 1.004 ล้านล้านบาท หมายความว่าไม่ทะลุเพดาน แต่จำนวนค่อนข้างเยอะ

นายวีระ ยังชี้ให้เห็นว่า การดำเนินการขณะนี้ในงบประมาณรายจ่ายรัฐวิสาหกิจ ถ้าหากเราจะบริหารจัดการแบบนี้ อนาคตอาจเป็นปัญหาได้ เพราะส่วนหนึ่งอยู่ในรายการบริหารจัดการหนี้ของรัฐบาล 4.1 แสนล้านบาท มาแฝงไว้ในงบรายจ่ายรัฐวิสาหกิจที่จะต้องจ่ายคืน ทำให้เราไม่รู้สถานะหนี้สิน และภาระค้างจ่ายของรัฐบาลอย่างแท้จริง

“ในอนาคตผมอยากเสนอให้ท่านสมาชิกลองทบทวนดูในการจัดทำงบประมาณปีต่อๆ ไป นอกเหนือจากการแยกให้ชัดเจนระหว่างการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ เป็นรายจ่ายที่ไม่สามารถเพิกถอนเปลี่ยนแปลงได้ กับรายจ่ายที่ต้องดำเนินการสำหรับการค้างจ่าย ที่ค่อนข้างยืดหยุ่น แต่บางครั้งเป็นการยืดหยุ่นแบบไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่ หากในอนาคตสามารถแยกออกมาเป็นรายการให้ชัดเจนก็คงดี” นายวีระกล่าว

ทั้งนี้ นายวีระ เสนอให้เพิ่มเติมรายการชำระหนี้คงค้างของรัฐบาล ที่มีต่อรัฐวิสาหกิจที่ให้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐ ซึ่งต่อไปในอนาคต รัฐบาลมีโครงการรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ยอดหนี้จะเพิ่มมาอีกก้อน เพราะต้องมีการชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป และต้องมีการตั้งกองทุน หรือจัดระบบให้รัฐวิสาหกิจใดออกเงินไปแทนก่อน เหมือนที่ทำกับสถาบันการเงินอยู่ในขณะนี้

“มันจะมาอีหรอบเดียวกัน ถ้าเราใช้โอกาสนี้ ขยายให้เกิดผลในทางปฏิบัติที่เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลบริหารเงินได้เหมาะสมสอดคล้องหรือไม่ ก็จะเป็นประโยชน์” นายวีระกล่าว

Related Posts

Send this to a friend