‘ดีอี’ ลุยปิดเว็บพนัน สกัดซิมผี-บัญชีม้า เดินหน้าดิจิทัลวัคซีน
‘ดีอี’ ประชุมติดตามผลปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ลุยปิดเว็บพนัน สกัดซิมผี-บัญชีม้า พร้อมเดินหน้าดิจิทัลวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันประชาชนจากภัยไซเบอร์
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 6/2567 ร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงาน และภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อหารือถึงมาตรการและผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน 2567 โดยมี 7 เรื่องสำคัญดังนี้
1.การปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ ในเดือนมิถุนายน (ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) การจับกุมคดีออนไลน์รวมทุกประเภท มิถุนายน 2567 มีจำนวน 2,349 ราย ลดลงร้อยละ 5.86 เทียบกับการจับกุมเฉลี่ย 2,495 คนต่อเดือน ช่วง ม.ค. – มี.ค. 67, จับกุมคดีเว็บพนันออนไลน์ มิ.ย. 67 จำนวน 1,082 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.69 เทียบกับการจับกุมเฉลี่ย 1,064 คนต่อเดือน ช่วง ม.ค. – มี.ค. 67, จับกุมคดีซิมม้า บัญชีม้า มิ.ย. 67 จำนวน 160 ราย ลดลงร้อยละ 33.33 เทียบกับการจับกุมเฉลี่ย 240 คนต่อเดือน ช่วง ม.ค. – มี.ค. 67
ทั้งนี้ สามารถจับกุม 4 เครือข่ายเว็บพนันบอลยูโร ได้ตัวผู้กระทำความผิด ทั้งชาวไทยและต่างประเทศกว่า 90 ราย ยอดเงินหมุนเวียนกว่า 300 ล้านบาท/เดือน พร้อมตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 287 ล้านบาท อีกทั้งยังร่วมกับกรมศุลกากร ปฏิบัติการ ‘สกัดกั้น STARLINK, ซิมการ์ด และจุดตั้ง Simbox’ พบการนำเข้าเครื่อง STARLINK 21 เครื่องและซิมการ์ด 15,675 ชิ้น
2.ปิดโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมาย และเว็บพนัน โดยปิดโซเชียลมีเดีย และเว็บผิดกฎหมายทุกประเภท เดือนมิถุนายน 2567 จำนวน 14,363 รายการ เพิ่มขึ้น 5.2 เท่า จากเดือนมิถุนายน 2566 ที่มีจำนวน 2,763 รายการ, ปิดเว็บพนัน มิถุนายน 2567 จำนวน 5,771 รายการ เพิ่มขึ้น 20.9 เท่า จากเดือนมิถุนายน 2566 ที่มีจำนวน 276 รายการ
3.แก้ปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัด ตัดตอนการโอนเงิน มีผลการดำเนินงานที่สำคัญถึง 30 มิถุนายน 2567 ดังนี้ ระงับบัญชีม้าแล้วกว่า 900,000 บัญชี แบ่งเป็น ปปง.ปิด 416,348 บัญชี ธนาคารระงับเอง 300,000 บัญชี และ AOC ระงับ 209,823 บัญชี กวาดล้างบัญชีม้าจากการใช้รายชื่อเจ้าของบัญชีม้า และรายชื่อผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยในเดือนมิถุนายนปิดบัญชีม้าไปแล้ว 72,296 บัญชี
4.แก้ไขปัญหาซิมม้า และซิมที่ผูกกับ Mobile Banking ซึ่งผลการดำเนินงานที่สำคัญถึง 30 มิถุนายน 2567 มีดังนี้ การระงับหมายเลขโทรออกเกิน 100 ครั้ง/วัน จำนวน 50,736 หมายเลข มีผู้มายืนยันตัวตน 418 เลขหมาย ไม่มายืนยันตัวตน 50,318 เลขหมาย
ส่วนการกวาดล้างซิมม้าและซิมต้องสงสัย โดย สำนักงาน กสทช. กำหนดหลักเกณฑ์การลงทะเบียนยืนยันตัวตน และผลการดำเนินงาน ดังนี้ กลุ่มผู้ถือครองซิมการ์ดมากกว่า 100 ซิม มีเลขหมายที่เข้าข่าย 5 ล้านเลขหมาย ครบกำหนดการยืนยันตัวตนเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว 3.9 ล้านเลขหมาย และระงับการใช้งานซิม 1.1 ล้านเลขหมาย, กลุ่มผู้ถือครองซิมการ์ดตั้งแต่ 6-100 เลขหมายต่อค่ายมือถือ จะต้องยืนยันตัวตนภายในวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ซึ่งมีเลขหมายที่เข้าข่าย 4.0 ล้านเลขหมาย มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว 1.6 ล้านเลขหมาย และยังไม่มายืนยันตัวตน 2.4 ล้านเลขหมาย
5.ดำเนินการเรื่องเสาโทรคมนาคม สายสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสายโทรศัพท์ที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดน สามารถควบคุมการหันเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 7 พื้นที่ คือ อ.แม่สอด จ.ตาก, อ.แม่สาย จ.เชียงราย, อ.เชียงของ จ.เชียงราย, อ.เชียงแสน จ.เชียงราย, อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว, อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และ อ.เมือง จ.ระนอง ปัจจุบันได้ระงับสัญญาณรวมแล้ว 366 สถานีฐาน พร้อมกำหนดพื้นที่เพิ่มเติมบริเวณชายแดนที่มีความเสี่ยง ในอีก 4 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่ระมาด อ.พบพระ จ.ตาก อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
6.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงขั้นตอนแนวปฏิบัติภาพรวมของการเปิดเผยและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อบูรณาการข้อมูลศูนย์ AOC 1441 ให้กับหน่วยงานทั้ง 5 หน่วยที่ได้ลงนาม MOU โดย สอท. และสมาคมธนาคารไทย ส่งข้อมูลการแจ้งความในระบบ Thaipoliceonline ระบบบัญชีธนาคาร และข้อมูลระบบ CFR ย้อนหลัง ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 66 – 30 พ.ค. 67 เพื่อนำมาใช้ใประมวลผลข้อมูลของศูนย์ AOC 1441 หามาตรการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
7.การแก้กฎหมายเร่งด่วน การประชาสัมพันธ์เชิงรุก และอื่นๆ โดยแก้ไขปัญหาการซื้อขายสินค้าหรือบริการออนไลน์แบบใช้บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ซึ่งคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาภายใต้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ‘เรื่องให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. …..’ ซึ่งจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาเดือนนี้ ให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าระบุรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ส่งสินค้าและผู้ประกอบธุรกิจชื่อสกุลผู้รับเงิน พร้อมหมายเลขติดตามพัสดุ
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าถือเงินค่าสินค้าเป็นระยะเวลา 5 วันก่อนนำส่งเงินให้กับผู้ขาย เพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกาสแจ้งเหตุที่ขอคืนสินค้าและขอเงินคืน ให้สิทธิผู้บริโภคสามารถเปิดดูสินค้าก่อนชำระเงินได้ หากพบว่ามีปัญหา ผู้บริโภคสามารถปฏิเสธการชำระเงินและไม่รับสินค้าได้ โดยประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วัน นับแต่วันที่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
จัดทำโครงการดิจิทัลวัคซีน เร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนให้รู้เท่าทันอาชญากรรมออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาแม้จะมีการเตือนภัยออนไลน์ แต่โดยรวมยังไม่ดีเท่าที่ควร ควรปรับการรณรงค์ระดับชาติ ทำต่อเนื่อง อีกทั้งแต่ละหน่วยงานมีกลุ่มเป้าหมายทั้งที่ซ้ำกัน และแตกต่างกัน ความร่วมมือจัดทำ mapping กลุ่มประชากรคนไทย จะทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมขึ้น