’เศรษฐา’ ยืนยันนโยบายพรรคเพื่อไทยชัดเจน “ไม่เอากัญชาเสรี”
’เศรษฐา’ ตอบ ‘ชูวิทย์’ ยืนยันนโยบายพรรคเพื่อไทยชัดเจน “ไม่เอากัญชาเสรี” ต้องเป็นกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น ด้าน ‘ชูวิทย์’ พอใจคำตอบ เตรียมถามพรรคการเมืองอื่นเพิ่ม เตือน ‘อนุทิน’ ให้กลับตัวกลับใจ หยุดนโยบายกัญชา – กราบขอโทษสังคม พร้อมที่จะหยุดต่อต้านทันที
วันนี้ (5 พ.ค. 66) เวลา 17:00 น. ที่ลานสยามพารากอน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางมารณรงค์ต่อต้านนโยบายกัญชาเสรี รวมทั้งมารอพบนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ที่จัดเวทีปราศรัยใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อถามถึงจุดยืนของพรรคเพื่อไทยต่อนโยบายกัญชาเสรี
เมื่อนายเศรษฐาเดินทางมาถึงด้วยรถรถไฟฟ้า นายชูวิทย์ ได้พูดกับนายเศรษฐาทันทีว่า วันนี้ที่มาจะมาถาม และรู้ว่าที่นายเศรษฐาปราศรัยถึงนายอนุทิน และนายอนุทินไม่ชอบเพราะว่านายอนุทินนั้นชอบกัญชา จากนั้นนายชูวิทย์ได้เอ่ยถามนายเศรษฐาเกี่ยวกับจุดยืนของพรรคเพื่อไทยต่อนโยบายกัญชาเสรี
นายชูวิทย์กล่าวว่า คุณเศรษฐา คุณมีนโยบายอย่างไรกับกัญชาเสรีหรือไม่ โดยนายเศรษฐา ตอบว่า นโยบายพรรคเพื่อไทยชัดเจนว่าเราไม่เอากัญชาเสรี เอากัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น
จากนั้นนายชูวิทย์ กล่าวว่า ดังนั้นไม่มีกัญชาเสรี ไม่มีการขายทั่วไป เพื่อมอมเมาเยาวชนใช่หรือไม่ ซึ่งนายเศรษฐาได้ย้ำชัดว่า ไม่มี ต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของแพทย์เท่านั้น
เมื่อนายเศรษฐาตอบคำถามนายชูวิทย์แล้ว นายชูวิทย์กล่าวว่า “ในเมื่อคุณไม่สนับสนุนกัญชา ผมขอสนับสนุนพรรคเพื่อไทย” ก่อน ที่นายชูวิทย์จะจับมือนายเศรษฐายกขึ้น แล้วบอกว่า “เอ้า เพื่อไทยก็ต้องเป็นแลนสไลด์”
นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่าส่วนนายอนุทิน ขอเอาไว้ที่ตน จะจับก็ตายจะคลายก็รอด แต่คลายแล้วต้องเอาไปเป็นฝ่ายค้าน เพื่อไทยอย่าไปเอา เพราะหนูมันพลิกไปพลิกมาหลายรอบ และรอบนี้จะต้องจับให้มั่นไปเป็นฝ่ายค้าน ส่วนพรรคเพื่อไทย ต้องไปเป็นรัฐบาลเป็นผู้บริหารงาน
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ตนต้องมาฟังกับหูจากผู้บริหาร ให้ดูด้วยตา การต่อต้าน กัญชาเสรีจะเป็นไปอย่างเข้มข้นในช่วงห้าหกวันก่อนที่จะเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยและหนูจะหมดไปจากกรุงเทพ ส่วนพื้นที่อื่นๆ ตนจะตามไปไล่เช่นกัน
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ได้อวยพรนายเศรษฐาว่าขอให้ทำงานเพื่อพรรคเพื่อไทย ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ขอให้ประสบความสำเร็จ และขอให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และได้จับมือกันโชว์สื่อก่อนที่นายเศรษฐา จะขอตัวไปเตรียมตัวปราศรัย ขณะที่นายชูวิทย์ ก็เดินรณรงค์ต่อต้านกัญชาเสรีต่อ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความพอใจเกี่ยวกับคำตอบของนายเศรษฐา นายชูวิทย์กล่าวว่า ตนพอใจกับคำตอบของนายเศรษฐา และนายพิธา แต่ไม่พอใจ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เดินหนีที่เยาวราช เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งตนตั้งใจจะไปถามในฐานะประชาชน และฐานะชาวเยาวราช ที่มาถึงถิ่นแต่กลับเดินหนี ซึ่งหากวันนั้นมาคุยว่าจะนำเรื่องกัญชากลับไปพิจารณาใหม่ หรือให้กลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดเหมือนเดิม ก็คงได้คะแนนจากบ้านของตนเองไปแล้ว และไม่เข้าใจว่าจะเดินหนีเพื่ออะไร
ส่วนคนที่จะได้คะแนนก็ต้องเป็นนายพิธา กับนายเศรษฐาที่ยืนยันคำตอบหนักแน่นแล้วว่า ไม่เอากัญชา ดังนั้นจะต้องตัดนายอนุทินออกไป ให้ไปเป็นพรรคฝ่ายค้าน และในการรณรงค์ครั้งนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 11 พ.ค. นี้ตนเองจะไปวิ่งเชิญชวนคนให้ร่วมต่อต้านกัญชาเสรี ให้เหมือนกับภาพยนตร์ฟอร์เรสท์ กัมพ์ แต่นี่จะเป็น “ชูวิทย์ กัมพ์” เพื่อที่จะได้ทำให้เห็นว่าใครแน่กว่าใคร
นายชูวิทย์ ยังฝากเตือนนายอนุทินว่า อย่าพูดกลับไปกลับมา การที่สภาไม่ผ่านกฎหมายให้ แล้วมาโทษว่าสภาไม่ผ่านให้ แต่คุณกลับไปเซ็นออกมาทำไมหากยังไม่พร้อม ดังนั้นนายอนุทินจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับกัญชาเสรี นายชูวิทย์ยังอ้างว่า ตอนนี้ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย อย่างกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ผู้สมัครเขตคลองเตยว่าไม่เอากัญชาเสรีเหมือนกัน ซึ่งตนเองก็แปลกใจว่าหัวหน้าพรรคกับลูกพรรคเคยเจอกันหรือไม่ แต่หากแนะนำคือไม่เลือกพรรคภูมิใจไทยดีที่สุด
เมื่อถามว่าพรรคการเมืองต่อไป ที่นายชูวิทย์จะถามเรื่องจุดยืนต่อนโยบายกัญชาคือพรรคอะไร นายชูวิทย์ ตอบว่า พรรคฝ่ายค้านก็คงไม่ต้องถาม ไปถามก็ต้องเป็นพรรคพลังประชารัฐของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค รวมถึงพรรคชาติไทยพัฒนาของนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค นอกจากนี้ยังมีพรรคของ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หรือพรรคเสรีรวมไทย และพรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และพรรคประชาธิปัตย์ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่จะไปถามเช่นกัน หากคำตอบเหมือนนายพิธา และนายเศรษฐาก็พร้อมที่จะสนับสนุนด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายชูวิทย์ได้กล่าวถึงนายอนุทินอีกว่า ขอเตือนด้วยความหวังดี กลับเนื้อกลับตัว วันนี้ท่านออกทะเลไปแล้ว ท่านเอาเยาวชนกับคนในสังคมไปเสี่ยงกับยาเสพติด และกัญชาของท่าน ซึ่งวันนี้พูดกลับไปกลับมา รวมถึงกัญชาก็ล้นตลาดเพราะคุณเปิดเป็นเสรี ดังนั้นหากนายอนุทินกลับเนื้อกลับตัว และบอกมาว่าจะไม่เอา หรือได้กลับไปเป็นรัฐบาลจะขอยกเลิกนโยบายกัญชา รวมถึงยอมรับว่าสิ่งที่ทำมาเป็นข้อผิดพลาดที่ร้ายแรง และกราบขอโทษต่อสังคม ตนก็จะหยุดต่อต้านนายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย