‘วราวุธ’ แจง พม. ได้งบไม่ตามเป้า ทำให้เพิ่มเบี้ยดูแลเด็กเล็ก – คนพิการ ไม่ได้

‘วราวุธ’ แจง พม. ได้งบไม่ตามเป้า ทำให้เพิ่มเบี้ยดูแลเด็กเล็ก – คนพิการ ไม่ได้ เล็งแก้กฎหมาย นิยามผู้พิการ หวังดูแลได้เพิ่มขึ้น

วันนี้ (5 ม.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ปี 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า ในปีที่ผ่านมาได้มีการของบประมาณซึ่งมีเด็กแรกเกิด – 6 ปี มีจำนวน 4.06 ล้านคน เราขอไปตามจำนวนตัวเลข แต่ด้วยข้อจำกัดทางงบประมาณ ทำให้ทางสำนักงบฯ พิจารณาผู้ที่เดือดร้อน และมีความจำเป็น คือครอบครัวของผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาท เป็นเงิน 16,000 กว่าล้านบาท สำนักงบฯ ก็ให้เท่าที่จำเป็นก่อน ส่วนครอบครัวที่มีรายได้มากกว่า 100,000 บาท หากมีงบประมาณก็จะดำเนินการต่อ

ส่วนเรื่องค่าหารกลางวัน ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาตนเองได้ขอให้กรมกิจการเด็กและเยาวชนประสานงานกับกรมบัญชีกลางให้ขึ้นราคาค่าอาหารของเด็กที่อยู่ในความดูแลของกระทรวง พม. ทั้งเด็กแรกเกิด – 2 ปี, 3 – 6ปี ในสถานสงเคราะห์ สถาบันเพาะกล้าคุณธรรม โดยเบื้องต้น ปี 67 ได้เพิ่มขึ้น 3 – 8 บาท และในปี 68 จะพยายามของบประมาณให้มากขึ้น

ส่วนเรื่องของผู้สูงอายุ เรื่องที่มีการพูดถึงมากคือเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุที่ปัจจุบันจ่ายแบบขั้นบันได โดยปัจจุบันผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี กว่า 13 ล้านคน คิดเป็น 20.2% ซึ่งมีการจ่ายเงินกว่า 10.6 ล้านคน 8 หมื่นว่าล้าน หากมีการปรับจากขั้นบันไดเป็นคนละ 1,000 บาทจะใช้งบเพิ่มขึ้น 43,000 กว่าล้านบาท และในอีก 3 ปีข้างหน้า เราจะมีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 14 ล้านคน หากจะเพิ่มเงินก็ต้องกู้เพิ่มขึ้น ยืนยันว่า กระทรวงเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุตอนต้น และตอนปลาย โดยผู้สูงอายุยังมีความสามารถ และศักยภาพ ดังนั้น เราจึงต้องมีการเพิ่มกิจกรรมเพื่อให้ไม่เป็นผู้ป่วยที่ติดเตียงนับเป็นหนึ่งในแนวทางที่เราจะทำ ต่อมาเป็นเรื่องเงินค่าจัดการศพของผู้สูงอายุที่ค้างจ่าย ทางกระทรวงจะมีการคาดการณ์ และของบประมาณไป แต่เมื่อสำนักงบฯ ดูแล้วให้เงินมาไม่พอ ทำให้จำนวนผู้ค้างจ่ายต้องทบไปเรื่อย ๆ และเราจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

สำหรับเรื่องคนพิการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติมีกว่า 4 ล้านคน แต่คนที่ขึ้นทะเบียนกับทางกระทรวง พม. มีเพียง 2 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งอาจมีการแก้ไขกฎหมายคำนิยามเกี่ยวกับคนพิการ เพื่อให้สามารถดูแลมากขึ้น เรื่องของเบี้ยคนพิการ คนกลุ่มเปราะบาง ที่มีการอภิปรายว่ากระทรวง พม. ไม่ใช่สังคมสงเคราะห์ แต่ต้องส่งเสริมศักยภาพ เราจึงได้ลงนาม MOU กับสถาบันการศึกษา ทำโครงการนำร่องเพิ่มทักษะจากงบของกองทุนคนพิการ และจะได้รับการจ้างงานจากภาคเอกชนในพื้นที่ หากทำสำเร็จ จะต่อยอดกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อให้คนทั้งประเทศมีรายได้เป็นของตนเอง ทั้งนี้ หากทางกระทรวงได้รับงบประมาณในการดูแลคนพิการเพิ่มขึ้น จะสามารถปรับได้ทั้งเบี้ยคนพิการ และการสร้างที่อยู่อาศัยที่เอื้อต่อการใช้ชีวิต

สำหรับเรื่องที่อยู่อาศัยเรามีโครงการ 3 แบบคือเช่าเพื่อซื้อ ให้จ่ายค่าเช่าก่อน เมื่อเวลาผ่านไป หากอยากซื้อ เราสามารถเลือประโยชน์ให้ได้ ต่อมาผ่อนกับสถาบันการเงินตามปกติ และเช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติ

ส่วนเรื่องของการเคหะที่มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการพัฒนาที่อยู่อาศัย ว่าสร้างไม่เสร็จตามเป้านั้นคิดเป็น 7% เท่านั้นที่ยังไม่แล้วเสร็จ และเรื่องของรายรับของกระทรวงจากการเจอปัญหาทางเศรษฐกิจทำให้ไม่สามารถเพิ่มอัตราค่าเช่าได้จนต่ำกว่าเป้าที่เราตั้งไว้

สำหรับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ได้พอเพิ่มงบประมาณบ้านพอเพียงเป็นหลังละ 40,000 บาท เราขอไปตามนั้น แต่ได้มาแค่ 20,000 กว่าบาท ซึ่งถ้าในไปต่อ ๆ ไป เราจะขอให้ได้ตามเป้า