POLITICS

‘อนุทิน’ กำชับ สื่อสารให้ครัวเรือนมีผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องใช้ไฟฟ้าสำหรับเครื่องมือแพทย์ทราบเกณฑ์ช่วยเหลือ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีที่มีข้อวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการงดจ่ายกระแสไฟฟ้า (ตัดไฟ) บ้านประชาชนใน อ.วังยาง จ.นครพนม เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยติดเตียงว่า ผู้ว่าการ กฟภ. ได้จัดทำรายงานข้อเท็จจริงมายังกระทรวงมหาดไทย รวมถึงชี้แจงผ่านสื่อมวลชนให้ประชาชนเข้าใจขั้นตอนดำเนินการต่าง ๆ แล้ว และ กฟภ. ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติผู้เสียชีวิตเบื้องต้น ขณะที่ญาติก็มีความเข้าใจถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบขั้นตอนและไม่ติดใจกับการงดจ่ายไฟของ กฟภ.

อย่างไรก็ตาม แม้ตามรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ กฟภ.จะพบว่า ช่วงเวลาที่ผู้ป่วยเสียชีวิตไม่ใช่ช่วงที่มีการงดจ่ายไฟ และไม่อาจระบุได้ว่าการงดจ่ายไฟเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต แต่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย มีความห่วงใยครอบครัวเปราะบางที่มีผู้ป่วยติดเตียง จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์การแพทย์ตลอดเวลาที่ไม่ควรมีความเสี่ยงใด ๆ จากบริการสาธารณูปโภคพื้นฐานเช่นกรณีของไฟฟ้า

ปัจจุบัน กฟภ.มีเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือไม่ตัดกระแสไฟฟ้ากับสถานที่หรือบ้านที่มีผู้ป่วยที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาลอยู่แล้ว นายอนุทินจึงกำชับให้ทั้ง กฟภ. รวมทั้งอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้ครอบครัวที่มีผู้ป่วยที่ต้องใช้อุปกรณ์การแพทย์ต่าง ๆ รู้ถึงเกณฑ์การช่วยเหลือที่ กฟภ.มีให้ เพราะปัจจุบันอาจจะมีประชาชนทราบเกณฑ์นี้ในวงจำกัด

สำหรับหลักเกณฑ์ยกเว้นการงดจ่ายไฟฟ้า หรือไม่ตัดกระแสไฟฟ้าของ กฟภ. ผู้ใช้ไฟที่มีผู้ป่วยในบ้านสามารถติดต่อลงทะเบียนที่สำนักงานของ กฟภ. ในพื้นที่ทุกแห่ง โดยมีเอกสารสำหรับลงทะเบียน ได้แก่

1) บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ใช้ไฟฟ้า

2) บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ป่วย หรือสำเนา

3)ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล มีอายุไม่เกิน 1 เดือน ที่ระบุว่าผู้ป่วยที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล

4) หลักฐานแสดงสถานที่ใช้ไฟฟ้า เช่น ใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้า หรือสัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือสำเนาทะเบียนบ้านสถานที่ใช้ไฟฟ้า

5) ในกรณีที่มอบอำนาจให้ผู้อื่นมาดำเนินการแทน ต้องมีหลักฐานแสดงตัวของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ

ทั้งนี้ กฟภ. จะให้ยื่นลงทะเบียนเพื่อรักษาสิทธิต่อเนื่องภายในวันที่ 31 มกราคมของทุกปี และในกรณีไม่มีความจำเป็นต้องใชไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์แล้ว จะต้องแจ้งยกเลิกกับ กฟภ.ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่สิ้นสุดความจำเป็น อย่างไรก็ตาม กฟภ. จะยกเลิกสิทธิในกรณีดังนี้

1) ค้างชำระค่าไฟฟ้ารวมกัน 3 เดือน

2) ตรวจพบการกระทำโดยมิชอบ/การละเมิดการใช้ไฟฟ้า

3) แจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ

4) ตรวจพบผู้ป่วยยกเลิกการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ แต่ไม่มีการแจ้งยกเลิกกับ กฟภ.

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat