POLITICS

‘เศรษฐา’ นั่งหัวโต๊ะประชุมรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ย้ำ เป็นรัฐบาลของประชาชน

วันนี้ (4 ก.ย. 66) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการอีก 16 คน ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงมหาดไทย, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พูดคุยกันพร้อมรับประทานอาหารร่วมกัน

นายเศรษฐา กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรก ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีการเข้าถวายสัตย์ฯ ก่อนหน้านี้ตนเองเคยพูดไม่ถูก ว่าเราเป็นรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย แต่ตอนนี้อยากให้เห็นว่าเป็นรัฐบาลของประชาชน และพรรคร่วม 11 พรรค ซึ่งต้องให้เกียรติพรรคร่วมด้วย

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ในช่วงที่เลือกนายก แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้พูดไว้ว่าพรรคเพื่อไทยมาด้วยต้นทุนที่สูง แต่จริง ๆ แล้ว เราเทหมดหน้าตักในการทำงานครั้งนี้ เรามีตัวแทนจากประชาชนในการดูแลบ้านเมือง มีหลายคนก็อยากอยู่ตรงนี้ แต่เราก็คัดสรรมาอย่างดีแล้ว เรื่องของการทุ่มเททำงานเพื่อประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ทั้งการทำงาน และงบประมาณ ก็เป็นขีดจำกัด ซึ่งอาจได้ในต้นปีหน้า แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นขีดจำกัดในการทำงาน มีหลายอย่างที่เราทำได้ก่อน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน อะไรทำได้ก่อนก็ทำ แต่ละกระทรวงก็มีแผนงานมากมาย

“บางอย่างอยู่ที่งบประมาณ บางอย่างอยู่ที่กฎหมาย แต่ไม่ใช่ว่าเราต้องอยู่ที่ขีดจำกัดพวกนั้น อะไรทำได้ก็ทำ ให้ประชาชนเห็นว่าเราทำงานอย่างเต็มที่ เวลาไปเจอประชาชนอย่าอธิบายว่าทำไมเราทำไม่ได้ ซึ่งเราถูกเลือกเข้ามาให้ทำให้ได้”

นายเศรษฐา กล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลประชาชนต้องลดช่องว่างระหว่างฝ่ายบริหารกับประชาชนให้ได้ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงผู้บริหาร อยากให้เป็นมิติใหม่ในการทำงานของรัฐบาลนี้ ซึ่งตนเองจะเน้นย้ำเรื่องนี้กับพรรคร่วมอีกครั้ง

Related Posts

Send this to a friend