‘ดีอี’ เดินหน้าพัฒนาทักษะแรงงาน ป้อนอุตฯ EV ดันไทยเป็น EV Hub ของโลก

‘ดีอี’ จับมือพันธมิตร เดินหน้า ‘Training Center’ พัฒนาทักษะแรงงานป้อนอุตฯ EV ผ่าน DE Platfrom ดันไทยเป็น EV Hub ของโลก
วันนี้ (4 ก.ค. 67) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กิจกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในจังหวัดนครราชสีมาเมื่อวันที่ 1-2 กรกฎาคมที่ผ่านมา กระทรวงดีอีสนับสนุนการใช้ระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ลดการใช้กระดาษ รวมถึงความร่วมมือด้านการพัฒนากำลังคนดิจิทัล ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) และ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (มรม.)
ภายใต้การบูรณาการของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มทร.อีสาน และภาคีเครือข่าย ร่วมนำเสนอศักยภาพดิจิทัลขั้นสูงของประเทศ รองรับการพัฒนาแรงงานสมรรถนะสูง ตอบสนองอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ สร้างเสริมทักษะทุกมิติด้วยเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า EV ระดับโลก VR Training บนโครงข่าย DE Platform เชื่อมโยงการถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยี และนวัตกรรมระหว่างประเทศอย่างไร้พรมแดน
ทั้งนี้ กระทรวงดีอีมีแนวคิดจัดตั้ง Training Center ระดับชาติ ขยายสู่ภูมิภาคและสากล รองรับการขับเคลื่อนนโยบายยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยอาศัยความพร้อมของ มทร.อีสาน เป็นฐานการผลิตกำลังแรงงาน ร่วมกับภาคีเครือข่าย และพร้อมสนับสนุนโครงข่าย DE Platform เพื่อการทำงานภายใต้ความร่วมมือด้านการพัฒนากำลังแรงงานสมรรถนะสูงทุกมิติของเทคโนโลยียนตกรรม EV ระดับโลก รวมถึงระบบ VR Training ซึ่งเป็นนวัตกรรมเพื่อรองรับการพัฒนาทักษะกำลังคนด้าน EV ด้วยเทคนิคและองค์ความรู้มาตรฐานระดับโลก
ขณะเดียวกัน ยังมอบเครื่องมือและอุปกรณ์เทคโนโลยี EV Training ด้าน DE Platform รองรับการพัฒนาทักษะด้วยเทคโนโลยีด้าน EV ขั้นสูง ให้แก่ มทร.อีสาน ซึ่งได้รับการสนับสนุน จากบริษัท จีไอ นิว เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ติดตั้งภายในสถาบัน เพื่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านยานยนต์ไฟฟ้าของ มทร.อีสาน โดยมีเป้าหมายมุ่งเน้นการพัฒนากำลังคนสมรรถนสูงด้าน EV สู่ความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน
นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงดีอี และหน่วยงานพันธมิตร พร้อมร่วมบูรณาการทำงานเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต โดยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนที่สำคัญที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลักดันให้ประเทศไทยเป็น EV Hub และ 10 อันดับแรกของโลกในการผลิตยานยนต์ที่ไม่ปล่อยมลพิษให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดของประเทศไทย ในปี 2573 คิดเป็นกำลังการผลิตรถยนต์ประมาณ 725,000 คัน และรถจักรยานยนต์ประมาณ 675,000 คัน
ทั้งนี้ มทร.อีสาน จะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตามภารกิจ ของกระทรวง อว. For EV ดำเนินการใน 3 แผนงาน “พัฒนากำลังคน เพิ่มสัดส่วนการใช้รถ EV และหนุนงบวิจัย EV ทั้งระบบ” เพื่อสร้างอุตสาหกรรมใหม่ให้กับประเทศ และสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน