POLITICS

‘ปดิพัทธ์’ แถลงพร้อมผลักดัน Smart Parliament ให้ ปชช.กลับมาเชื่อถืออีกครั้ง

‘ปดิพัทธ์’ แถลงวิสัยทัศน์ หากเป็น รองประธานสภาฯ พร้อมผลักดันเป็น Smart Parliament ให้ประชาชนกลับมาเชื่อถืออีกครั้ง

วันนี้ (4 ก.ค. 66) ที่อาคารรรัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ หลังจากที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อต่อสภาให้เป็นรองประธานสภาคนที่ หนึ่ง

นายปดิพัทธ์ ระบุว่า ขอขอบคุณ ถือเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ และเป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่ตนเองจะได้มีโอกาสสนับสนุนองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ และสนับสนุนงานของประธานที่ได้รับเลือกและได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีความตั้งใจที่ผมอยากเสนอต่อ ประธานสภาแห่งนี้ให้ได้พิจารณาประชาชนเราอยากเห็นประชาชนกลับมามั่นใจในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่งในกระบวนการนิติบัญญัติที่กฎหมายทุกฉบับจะได้รับการพิจารณาอย่างมีประสิทธิภาพ เราจะทำให้สภานิติบัญญัติกลับมามีตัวตน และศักดิ์ศรีไม่อยู่ใต้อาณัติของฝ่ายบริหาร จะทำให้สภานิติบัญญัติกลับมามีตัวตนกลับมามีศักดิ์ศรีเอาที่มันอยู่ใต้อาณัติของฝ่ายบริหาร ซึ่งคือสิ่งอยู่ใต้รัฐธรรมนูญที่เรายึดถือและสนับสนุนให้เกิดขึ้น

“จากการดูงานสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผมว่าต้องการทำให้รัฐสภาเป็น Smart Parliament ซึ่งการที่จะสามารถพัฒนาให้มีประสิทธิภาพได้นั้นเราต้องมุ่งมั่นยกระดับกระบวนการนิติบัญญัติทั้งหมดทั้งหมดให้เป็นมาตรฐานสากลให้ได้และเรียกความเชื่อมั่นศรัทธาไม่ใช่แค่ในประเทศแต่รวมถึงความร่วมมือระหว่างประเทศด้วย” นายปดิภัทธ์ กล่าว

นายปดิพัทธ์ กล่าวต่อว่า จะนำเสนอกระบวนการตรวจสอบนิติบัญญัติ โดยสื่อมวลชน และประชาชนสามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส และมีประสิทธิภาพ สามารถทำให้ประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย กับกฎหมายฉบับต่าง ๆ นั้น สามารถที่จะติดตามกฎหมายได้เพราะนี่คืออำนาจที่พวกเขาเป็นเจ้าของประชาธิปไตย กฎหมายที่ผ่านวาระ 3 ของสภาผู้แทนราษฎรที่มีการบังคับใช้แล้วนั้นเป็นภาษาอังกฤษเพื่อสามารถแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเป็นรยกระดับความรู้ในองค์กรของเรา ในอาเซียน และประชาคมโลก ยังเหลือความร่วมมือในบทบาทระดับชาติที่มากขึ้น การส่งเสริมความบทบาทที่เท่าเทียมกันโดยเฉพาะสมาชิกที่มีความหลากหลายทางเพศและคนที่มีอายุต่ำกว่า 35 บทบาทในการขับเคลื่อนสภาอย่างเข้มแข็ง และ บทบาทของสตรี ที่ต้องได้รับการส่งเสริมให้มีความเท่าเทียมในสภาแห่งนี้

“ผมอยากเห็นสิ่งที่ประชาชนมีส่วนร่วมโดยที่ไม่ใช่แค่การเลือกตัวแทนมาทำงานในสภาแห่งนี้แต่แต่การฟังความคิดเห็นของการทำกฎการตรากฎหมายต่างๆต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรา: วิจารณ์หลายอย่างว่าการฟังความคิดเห็นเป็นการทำตามแค่สิ่งที่ต้องทำตามระเบียบ แต่ แต่การที่จะสนับสนุนและเสริมสร้างของผมจะทำให้การมีส่วนร่วมของประชาชน ให้ทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่”

นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า จากประสบการณ์ของตนที่เคยเป็นประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชนและสื่อมวลชน ทำให้ตนเห็นว่าประชาชนมีความตั้งใจอย่างยิ่งในการนำเสนอกฎหมายของตนเข้ามาในสภาแห่งนี้ แต่ด้วยสิทธิตามรัฐธรรมนูญคือการเข้าชื่อเสนอกฎหมายนั้น สามารถทำได้และถูกนำมาพิจารณา

อีกประการหนึ่ง คือการบริหารจัดการองค์กรที่มีสมรรถนะสูง การผสานเอาประสบการณ์ของท่านประธานสภาและความทันสมัย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มาสนับสนุนกัน จะทำให้องค์กรรัฐสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีขัดสมรรถนะสูง สามารถบริการประชาชนและสมาชิกรัฐสภาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“หากผมได้รับการมอบหมาย จะใช้ 4 ปีที่มีอยู่ วางตัวให้เป็นกลางอย่างดีที่สุด และใช้ทุกความสามารถพัฒนาองค์กรนี้ให้มีขีดสมรรถนะสูง เป็นระบบราชการที่ทันสมัย ตอบสนองต่อประชาชน และการทำงานของเพื่อนสมาชิก” นายปดิพัทธ์ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend