‘ชัชชาติ’ เดินหน้าพัฒนาระบบเชื่อมสองสวน มุ่งยกระดับเป็นสวนระดับโลก รับประชุมเอเปค
วันนี้ (4 ก.ค. 65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงผลความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการเชื่อมสวนสาธารณะ “เบญจกิติกับสวนลุมพินี” ครั้งที่ 1/2565 ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
นายชัชชาติ กล่าวว่า สวนลุมพินีเป็นสวนเก่าที่มีอยู่แล้ว ส่วนสวนเบญจกิติเป็นสวนใหม่ของ กทม. คณะกรรมการนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเชื่อมทั้งสองสวนเข้าด้วยกัน แต่จะพยายามเร่งรัดการก่อสร้างสวนเบญจกิติให้แล้วเสร็จ และเพิ่มพรรณไม้มากขึ้น ทั้งหมดเพื่อรองรับการประชุมเอเปคในช่วงปลายปีนี้ และทำให้สวนเบญจกิติเป็นสวนที่สมบูรณ์แบบ
สำหรับผลการอนุมัติของคณะกรรมการในวันนี้คือ โครงการปรับปรุงทางออกสวนเบญจกิติบริเวณซอยสุขุมวิท 10 จากสะพานไม้เป็นสะพานปูน ส่วนบริเวณซอยสุขุมวิท 4 เป็นถนนที่กรมธนารักษ์เป็นผู้รับผิดชอบ ขณะที่ กทม. รับผิดชอบในการปรับปรุงสะพานเขียว
นายชัชชาติ ชี้แจงว่า บทบาทของคณะกรรมการคือการก่อสร้างทางเชื่อมทั้งสองสวนให้แล้วเสร็จด้วยงบประมาณที่ตั้งไว้แล้ว 200 กว่าล้านบาท ทั้งการทำทัศนียภาพใหม่ ย้ายสมาคมแบดมินตันฯ ออกเพื่อทำทางลงให้ต่อเนื่องกัน และสร้างลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ พร้อมทั้งการปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลองไผ่สิงโต
นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงแนวคิดพัฒนาสวนลุมพินีในอนาคตว่า เดิมทีสวนลุมพินีมีความจุที่จอดรถเพียง 300 คัน ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้งาน จึงอาจมีการสร้างเพิ่มเป็นรูปแบบชั้นใต้ดินฝั่งถนนราชดำริ และอาจทำเป็นศูนย์อาหาร (Hawker Center) ตลอดจนการสร้างทางเชื่อมจากรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีอโศก มาสวนเบญจกิติ และจากสถานีศาลาแดง มายังสวนลุมพินี
“สวนนี้คือสวนระดับโลก หากมีการเชื่อมโยงให้ดี ก็คงทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มศักยภาพของสวน” นายชัชชาติ กล่าว