ผู้นำ BIMSTEC ชื่นชมยุทธศาสตร์ PRO BIMSTEC ของไทย

โฆษก กต.เผยผู้นำ BIMSTEC ชื่นชมยุทธศาสตร์ PRO BIMSTEC ของไทยทั้งความร่วมมือทางการค้าและการจัดการภัยพิบัติ มองเป็นโอกาสที่สำคัญของประเทศภูมิภาคอ่าวเบงกอล
วันนี้ (4 เม.ย. 68) นายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ผลการประชุมผู้นำ BIMSTEC SUMMIT ครั้งที่ 6 ซึ่งไทยในฐานะประธานบิมสเทค และเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งนี้ ได้รับคำชื่นชมจาก ผู้นำประเทศสมาชิก 6 ประเทศ ทั้ง อินเดีย ภูฎาน เนปาล บังคลาเทศ เมียนมา ศรีลังกา ว่าเป็นการประชุมที่เกิดประโยชน์กับกลุ่มประเทศอ่าวเบงกอล โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ เพื่อสร้าง “บิมสเทคที่มั่งคั่ง ยั่งยืน ฟื้นคืน และเปิดกว้าง” หรือ PRO BIMSTEC ภายในปี ค.ศ. 2030 โดยให้ความสำคัญกับการบูรณาการทางเศรษฐกิจ การเชื่อมโยง และความมั่นคงของมนุษย์ และปฏิญญาการประชุมผู้นำบิมสเทค ครั้งที่ 6 ซึ่งเป็นการยืนยันถึงเจตนารมณ์ของพวกเราในการส่งเสริมบิมสเทคและผลักดันวิสัยทัศน์กรุงเทพฯ 2030
“ในแถลงการณ์ผู้นำทุกคน ได้ชื่นชมเรื่องที่ไทยผลักดัน โปรบิมสเทค ความมั่งคั่ง ยั่งยืน ฟื้นคืน และการเปิดกว้าง เพราะระยะเวลาที่ไทยเสนอ เหมาะสม ซึ่งเกิดขึ้นในภาวะที่ 7 ประเทศต้องร่วมมือทางการค้าให้มากขึ้น เนื่องจากเกิด 1 วันก่อนที่สหรัฐฯ ประกาศมาตรการทางภาษี ดังนั้น 7 ประเทศนี้ต้องเปิดตลาดกันและกัน ทุกประเทศ พูดถึงการผลักดัน FTA ในกลุ่มบิมสเทค และการฟื้นฟูเกิดหลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์”
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทุกประเทศยังชื่นชมที่ไทยผลักดันข้อเสนอการต่อสู้กับอาชญากรรมใหม่ๆ เช่น ภาวะโลกร้อน โรคระบาด ภัยพิบัติ ซึ่งเมียนมา ก็กำลังเผชิญภัยพับัติ ทุกคนชื่นชมสิ่งที่ไทยเสนอ ทั้งการตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวที่จะตั้งที่อินเดีย และศูนย์การแพทย์บิมสเทค ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นทางการเมืองจาก 7 ประเทศ ที่ประสงค์จะทำให้เร็ว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศย้ำว่า ผลประโยชน์ที่จะได้รับจากความร่วมมือของกลุ่มบิมสเทค เห็นได้ชัดจากการประชุมครั้งนี้ โดยเฉพาะตลาดที่กว้างขึ้น หลังการประชุมครั้งนี้ ผู้นำแต่ละประเทศจะนำการบ้านกลับไป FTA แม้ยากแต่จะต้องอาศัยความมุ่งมั่นทางการเมือง จำเป็นที่เราต้องสร้างการค้า การลงทุนภายในให้ดียิ่งขึ้น ต้องไม่ลืมว่าเอเชียใต้เป็นภูมิภาคที่เติบโตสูงมาก และเป็นผลพลอยได้ที่ดีมาก เพราะมีประเทศเป็น landlock ที่ไม่มีทางออกทางทะเล บังคลาเทศและเนปาล จะได้ประโยชน์จากข้อตลกลงการค้าทางทะเลด้วย