‘พ.ต.อ.ทวี’ ลั่น ไม่ปล่อยแน่ หากมีผู้มีอิทธิพลเอี่ยวนอมินี บ.ไชน่าเรลเวย์ฯ
‘พ.ต.อ.ทวี’ ลั่น ไม่ปล่อยแน่ หากมีผู้มีอิทธิพลเอี่ยวนอมินี บ.ไชน่าเรลเวย์ฯ แจ้ง ตม. ดักทางเข้าออกประเทศ ยัน ติดตามสะกดรอยผู้เกี่ยวข้องในคดีแล้ว ขอโฟกัสคดีพิเศษตึกถล่มก่อน โยนหน่วยงานอื่นตรวจสอบโครงการก่อสร้างรัฐที่บริษัทสัญชาติจีนนี้ได้สัมปทาน ขอกู้ภัยตึก สตง.ถล่ม ช่วยบันทึกถ่ายภาพการช่วยเหลือไว้เป็นหลักฐานในคดี
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังประชุมนัดแรกคดีพิเศษที่ 32/2568 กรณีความผิดจากตึก สตง.ถล่ม ยืนยันว่า หากมีหลักฐานแจ้งข้อกล่าวหาสามารถนำตัวผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ ซึ่งก่อนรับเป็นคดีพิเศษ พอรู้ที่อยู่ก็มีการติดตาม และเมื่อเช้ามีการแจ้งว่าจะต้องประสานงานด่าน ตม. ทางเข้าออกประเทศด้วย
“หน้าที่ของพนักงานสอบสวนนอกจากแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน พิสูจน์ความบริสุทธิ์และความผิดแล้ว อีกหน้าที่สำคัญคือการนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องลงโทษ ในเรื่องนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษเวลาจะทำเรื่อง ดูทุกเรื่อง เพราะเรามีสำนักสืบสวนสะกดรอยอยู่” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้องกับบริษัทนอมินีจีนว่า กระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการกับผู้มีอิทธิพล ต้องใช้กฎหมายดำเนินการ ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ถ้าพยานหลักฐานไปถึงก็ดำเนินการได้ ได้รับฟังข้อมูลของพนักงานสอบสวนตามที่เสนอก็มีความรอบคอบ คดีนี้เป็นคดีที่มีความสูญเสียเยอะ การดำเนินคดีต้องดำเนินการโดยเร็วบนข้อมูลพยานหลักฐานที่รอบคอบ
พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ขณะนี้ขอทำคดีในส่วนของสาเหตุตึก สตง. ถล่มก่อน ส่วนประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือการตรวจสอบโครงการของรัฐที่มีสัญญากับบริษัทสัญชาติจีน ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ มีการสอบถามเกี่ยวกับหลักฐานทางทะเบียน กรณีกิจการร่วมค้าปรากฏว่า กระทรวงพาณิชย์แจ้งว่าไม่ได้รับผิดชอบทะเบียน ซึ่งรับผิดชอบเฉพาะบริษัทนิติบุคคลตามกฏหมายแพ่ง ทำให้ข้อมูลไปอยู่ที่กระทรวงการคลัง แต่กระทรวงการคลังไม่ได้ทำทะเบียนไว้ จึงต้องไปไล่ตามสรรพากรต่าง ๆ ที่มีการเสียภาษี เป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องมีผู้รับผิดชอบ อาจเพิ่มภาระงานให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมดูด้วย
“ดีเอสไอต้องประสานงาน แม้แต่เรื่องการบังคับใช้กฎหมายเรื่องเข้าสู่เนื้องาน เช่น พยานหลักฐานควรต้องเก็บอย่างไร ควบคู่กับการช่วยเหลือชีวิตก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่หากปล่อยให้วัตถุพยานถล่มลงไปก็จะไม่มีภาพและวัตถุพยานไปยืนยันในชั้นศาล จึงขอให้ไปประสานงานให้เก็บภาพและวัตถุพยานให้มากที่สุด ทำให้พนักงานสอบสวนต้องประสานกับนิติวิทยาศาสตร์ และประสานกับวิศวกร และขอความกรุณาผู้ช่วยชีวิตช่วยบันทึกภาพเก็บไว้ด้วย” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ส่วนกรณีที่บริษัท ไชน่าเรลเวย์นัมเบอร์ 10 ได้โครงการสัมปทานของรัฐหลายโครงการ เรื่องนี้จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบและกระทรวงยุติธรรมจะนำข้อมูลที่มีอยู่ไปให้ เช่น เรื่องกิจการร่วมค้า 29 โครงการ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ส่วนดีเอสไอจะโฟกัสเฉพาะกรณีที่รับผิดชอบก่อน กรณีอื่นจะต้องส่งให้ภาครัฐไปพิจารณา ต้องทำเป็นคดี ๆ ไป
