‘พ.ต.อ.ทวี’ แจงขั้นตอนรักษา ‘ทักษิณ’ เป็นไปตามกฎหมาย อยู่ในดุลพินิจของแพทย์
‘พ.ต.อ.ทวี’ แจงขั้นตอนรักษา ‘ทักษิณ’ เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ชี้ อยู่ในดุลพินิจของแพทย์ มอง ไม่เป็นธรรมหากบอกว่าคุมขังทิพย์
วันนี้ (4 เม.ย. 67) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยระบุว่า ผู้อภิปรายและสมาชิกจำนวนหนึ่ง อาจมีความเข้าใจไม่ตรงกัน เนื่องจากพูดอย่างไรก็โยงเข้าเรื่องโรงพยาบาลตำรวจ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ราชทัณฑ์ปี พ.ศ.2560 ที่เขียนว่า “เรือนจำ” หมายความว่า ที่ซึ่งใช้ควบคุม ขัง หรือจำคุกผู้ต้องขัง และใน พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ดังกล่าวยังบัญญัติในมาตรา 55 วรรค 3 ว่า กรณีที่ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำตามวรรคสอง มิให้ถือว่าผู้ต้องขังนั้นพ้นจากการคุมขัง และถ้าผู้ต้องขังไปเสียจากสถานที่ที่รับผู้ต้องขังไว้รักษาตัว ให้ถือว่ามีความผิดฐานหลบหนีที่คุมขังตามประมวลกฎหมายอาญา
ทั้งนี้ หากมองว่าสถานที่ที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารักษาตัว เป็นการเลือกปฏิบัติ ก็ไม่รู้จะใช้คำพูดใด กฎของกระทรวงในเรื่องการรักษาตัวในสถานที่นอกเรือนจำ ยังบอกว่ากรณีผู้ไปรักษาตัวมีเกณฑ์อยู่ หากจะไปพักรักษาตัวขอให้พักทั่วไป เว้นแต่จะมีการจัดสถานที่ควบคุมพิเศษในการรักษาที่ควบคุม ซึ่งนายทักษิณอยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่ได้เป็นผู้ออกกฎกระทรวง อีกทั้งข้าราชการตั้งแต่ปลัดกระทรวงยุติธรรม รองปลัดกระทรวงฯ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก็ไม่ได้เปลี่ยนตัวด้วยซ้ำ เมื่อมีผู้อภิปรายว่าการไปอยู่โรงพยาบาลเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม จะทำลายได้อย่างไร ในเมื่อทั้งกฎหมาย กฎกระทรวง ระบุว่านี่คือเรือนจำ การกล่าวหาว่าเป็นที่คุมขังทิพย์จึงไม่เป็นธรรม
ขณะเดียวกันกฎหมายยังระบุว่า เมื่อเวลาเจ็บป่วยให้ส่งแพทย์โดยเร็ว จะกลับมาก็ต้องเป็นเรื่องของแพทย์ หากแพทย์ให้ส่งตัวไปก็ไม่มีใครขัดแพทย์ การจัดที่คุมขังพิเศษเป็นเรื่องของโรงพยาบาล อาจจะมีเหตุผลอย่างไรไม่ทราบ เพราะในกฎหมายราชทัณฑ์กำหนดไว้เพียงไม่ให้หนี และไม่ให้ก่อเหตุร้าย
“ทุกท่านที่ดึงไปอยู่ในโรงพยาบาลบอกเป็นเรื่องเลวร้าย ขัดหลักนิติธรรม ผมได้พูดกับ สว.แล้ว การฉีกรัฐธรรมนูญ การยึดอำนาจ อันนั้นสิ ในทัศนะของผมที่ธำรงไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย นั่นคือการทำลายระบบ ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าว ยังชี้แจงถึงเรื่องความเห็นของแพทย์ โดยระบุว่า แพทย์ 2 คน ที่จะรายงานมายังอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้มีความรอบคอบมากจึงส่งเรื่องกลับไปยังโรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่า อาการลักษณะนี้สามารถนำตัวกลับมาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้หรือไม่ ซึ่งได้คำตอบว่าอยู่ที่ดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา อธิบดีกรมราชทัณฑ์จึงทำหนังสือถามกลับไปที่แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมส่งไปขอความเห็นแพทย์อีกหลายคน และเสนอเรื่องมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้เห็นชอบ ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องอาการเจ็บป่วยไม่มีใครรู้ดีกว่าแพทย์
อย่างไรก็ตาม นายวาโย อัศวรุ่งเรือง สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ใช้สิทธิ์พาดพิง พร้อมตั้งคำถามว่า ต่อไปผู้สูงอายุและผู้ป่วยทุกคนในเรือนจำจะได้รับการพิจารณาและสิทธิในการรักษาตัวเช่นเดียวกับกรณีของนายทักษิณหรือไม่ โดย พ.ต.อ.ทวี ตอบกลับว่า จะนำไปปฏิบัติ พร้อมขอให้สมาชิกช่วยตรวจสอบด้วย