POLITICS

ศาลฎีกา มีมติเอกฉันท์ ยกฟ้อง ‘ยิ่งลักษณ์‘ คดีจัด Roadshow สั่งเพิกถอนหมายจับ

ศาลฎีกา มีมติเอกฉันท์ ยกฟ้อง ‘ยิ่งลักษณ์‘ กับพวกคดีจัด Roadshow 240 ล้านบาท พร้อมสั่งเพิกถอนหมายจับ

วันนี้ (4 มี.ค. 67) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาคดี อม.2/2565 ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และ นายระวิ โหลทอง กรรมการบริษัท สยามสปอร์ตฯ ในความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต โดยมุ่งหมายไม่ให้มีการแข่งขันราคาจัดจ้างโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 อย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ MATI และ SPORT ในการจัดทำโครงการดังกล่าว มูลค่ารวมกว่า 239 ล้านบาท

ภายหลังอ่านคำพิพากษากว่า 2 ชั่วโมง มีรายงานว่า ศาลมีมติเอกฉันท์ 9:0 ยกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับพวก 6 คน รวมถึงในช่วงท้ายคำพิพากษา มีคำสั่งให้เพิกถอนหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกด้วย

ต่อมา เวลา 11:40 น. นายนิวัฒน์ธำรง ออกมาให้สัมภาษณ์ ภาจหลังฟังคำพิพากษา ระบุว่า กระบวนการไต่สวนเริ่มมาตั้งแต่ปี 2562 และเข้าสู่กระบวนกระบวนการศาลฎีกาตั้งแต่ปี 2565 ในฐานะผู้ถูกฟ้องได้รับความทรมาน แต่วันนี้ดีใจที่ศาลท่านมีความเมตตา และได้ดูรายละเอียดทั้งหมดจากคำให้การทั้งฝ่ายโจทก์ และจำเลยจึงส่งผลในการตัดสินวันนี้

เมื่อถามว่า คดีนี้มีการเพิกถอนหมายจับอดีตนายกรัฐมนตรี ตนก็พึ่งรับทราบมาเหมือรกัน จึงยังไม่ได้สื่อสารไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีส่วนร่วมในเรื่องนี้เพียงน้อยมาก เพราะเป็นเรื่องของหน่วยงานที่ดำเนินการตามนโยบายในการจัดกิจกรรม

เมื่อถามต่อว่า ถือเป็นการล้างมลทินหรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า จะเรียกว่าเป็นการล้างมลทินก็คงไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องของการที่ได้ปฏิบัติงานอย่างสุจริตเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่เมื่อมีคนไปฟ้อง ป.ป.ช. ก็ต้องตรวจสอบแล้วพบว่ามีมูลจะนำไปสู่กระบวนการของศาลซึ่งตอนนี้ก็ถือว่าโล่งใจเพราะต่อสู้กันมาหลายปี และจากการสอบพยานทางเรามีหลักฐานแน่นว่าไม่มีแววแววในเรื่องของการทำทุจริตและตนเองก็มั่นใจมาโดยตลอด

ด้าน นพดล หลาวทอง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ตั้งแต่ตนรับทำคดีนี้ก็มั่นใจในลูกความตนเองว่าไม่มีความผิด และเชื่อมั่นในความสุจริตเพราะดูจากพยานหลักฐานอีกทั้งพยานหลักฐานฝ่ายผู้กล่าวหาเองก็มีข้อบกพร่องเยอะ รวมถึงตนเองมีการรวบรวมหลักฐานจากทุกศาลมาต่อสู้จึงมีความเชื่อมั่นตั้งแต่แรกแต่ครั้งนี้ก็ได้รับความเมตตาจากศาล

ขณะที่นายสุรนันทน์ ได้ขอบคุณตุลาการศาลฎีกาที่มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าไม่ผิด และให้ความเป็นธรรมเพราะ การไต่สวนนั้นค่อนข้างละเอียดพิจารณาทุกแง่มุม อย่างละเอียดถี่ถ้วนทำให้เกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการที่ทำของไทย และขอขอบคุณกำลังใจ จากทุกคนทั้งที่รู้จักตน และไม่รู้จักตนตลอดตลอดที่ผ่านมา

นายสุรนันทน์ ยอมรับว่าเรื่องนี้ เป็นการยกภูเขาออกจากอก เพราะเป็นคดีที่ผ่านมาไม่เข้าใครออกใคร และต้องเผชิญกับกระบวนการต่างๆ ตลอดเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ซึ่งรู้สึกสบายใจ และเราปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ในขณะนั้น และถือเป็นการยืนยันความถูกต้องเพราะที่ผ่านมามีการแถลงข่าวมากมายมีกระแสข่าวอีกต้นไม่เคยมีการตอบโต้กลับรอเพียงแค่ศาลตัดสินเท่านั้น และวันนี้ก็ถือเป็นที่ประจักษ์แล้ว

Related Posts

Send this to a friend