‘หมอชลน่าน’ แจง ‘พล.อ.พัลลภ’ ไม่ได้ถูกปลด เป็นสมาชิกพรรคตลอดชีพ
ย้ำ ‘เพื่อไทย’ เป็นอิสระ ไม่ได้ถูกครอบงำ ยก ‘ทักษิณ’ เป็นปูชนียบุคคล
วันนี้ (4 ม.ค.65) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวว่า พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ถูกปลดจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และไม่ได้เข้าประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2564 ที่ จ.ขอนแก่น ขอเรียนชี้แจงว่า การประชุมใหญ่จัดขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงต้องจำกัดองค์ประชุมอยู่ที่ 500-1,000 คน จำนวนสมาชิกที่เชิญไปมีทั้งหมด 509 คน แบ่งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 122 คน เป็นตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด 272 คน คณะกรรมการบริหารพรรค 20 คน และตัวแทนสมาชิกพรรคอีก 91 คน ทั้งหมดคัดเลือกจากสมาชิกที่เดินทางสะดวก ไม่สุ่มเสี่ยงกับการติดเชื้อโควิด-19
ดังนั้นจึงไม่ได้เชิญสมาชิกอาวุโสหลายท่าน โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป เพราะสุ่มเสี่ยงกับการแพร่ระบาด เช่น นายเสนาะ เทียนทอง, นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ดังนั้นข้อกล่าวอ้างที่ว่า พล.อ.พัลลภ ถูกลบจากสมาชิกพรรคจึงไม่เป็นความจริง
นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า พล.อ.พัลลภเป็นสมาชิกพรรคแบบตลอดชีพ โดยจ่ายค่าสมาชิกพรรคครั้งล่าสุด 2,000 บาท เมื่อวันที่ 4 เม.ย.61 สำหรับการถูกปลดจากสมาชิกพรรคเกิดได้จาก 8 กรณี ได้แก่ ตาย ลาออก ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ไม่จ่ายค่าบำรุงสมาชิกติดต่อกัน 2 ปี กระทำผิดวินัยร้ายแรง ถูกขับออกด้วยเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 พรรคการเมืองถูกยุบ และเป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมืองที่มีเหตุให้ออก
“ไม่มีใครปลดสมาชิกพรรคการเมืองได้ ข้อกล่าวอ้างที่พูดคุยโทรศัพท์กับผม แล้วผมบอกว่า คนแดนไกลสั่งปลด ดูจากข้อเท็จจริงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะผมระวังเรื่องเหล่านี้มาก”
นพ.ชลน่าน บอกว่า ตนเองรักและเคารพ พล.อ.พัลลภ พร้อมเข้าไปกราบทำความเข้าใจ และเรียนชี้แจง โดยเมื่อวานนี้ (3 ม.ค.65) ได้โทรศัพท์ไปคุยเรื่องที่ปรากฏตามสื่อ พูดถึงความสำคัญของ พล.อ.พัลลภต่อพรรค และยังต้องการให้มาทำงานที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน จากการพูดคุยไม่ได้สอบถามถึงมูลเหตุว่าทำไม พล.อ.พัลลภถึงให้สัมภาษณ์สื่อเช่นนั้น แต่เข้าใจว่ามาจากการที่มีคนรายงานว่า พล.อ.พัลลภ ถูกลบชื่อจากที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่อาจทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน
สำหรับการกล่าวอ้างถึงบุคคลภายนอกเข้ามาครอบงำพรรค นพ.ชลน่าน กล่าวว่า บุคคลภายนอกที่ว่าคือ “ทักษิณ ชินวัตร” ทุกคนรู้ว่าเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย การแสดงออกของท่านคือ แบรนด์แอมบาสเดอร์ คือปูชนียบุคคลของพรรค ท่านย่อมพูดถึงพรรคเพื่อไทยได้ แต่มีคนนำคำพูดไปตีความว่าชี้นำ ย้ำว่า ไม่ใครมีสิทธิมาครอบงำพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคก็ทำงานอย่างเป็นอิสระ
ส่วนที่มีผู้ร้องไปยื่นเรื่องต่อ กกต.ให้ตรวจสอบว่า พรรคเพื่อไทยเข้าข่ายการฝ่าฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 28 หรือไม่นั้น นพ.ชลน่าน ตอบว่า ผู้ร้องมีเจตนายุบพรรค ซึ่งหากผู้ร้องกล่าวเท็จ กฎหมายพรรคการเมืองคุ้มครองพรรคอยู่แล้ว เมื่อไม่มีการปลด จะไปร้องมีบุคคลภายนอกมาชี้นำพรรคได้อย่างไร