POLITICS

สนพ.เตรียมเรียกกลุ่มโรงกลั่นหารือต้นทุน ชี้ กำไร 2 บาทต่อลิตร เหมาะสมแล้ว

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำมันดิบที่อยู่ในระดับสูง จนส่งผลให้ต้นทุนค่าการกลั่นเพิ่มขึ้น ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 5 บาทต่อบาร์เรล ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2565 จากค่าเฉลี่ยอ้างอิงระดับกว่า 2 บาทต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ สนพ.จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ พร้อมเรียกกลุ่มโรงกลั่นมาหารือถึงต้นทุน โดยจะต้องมีความชัดเจนภายในเดือนนี้ หลังมีกระแสข่าวว่า กำไรอยู่ที่ 5 บาทต่อลิตร ซึ่งถือว่าสูง แต่ต้องดูต้นทุนแท้จริงในการซื้อน้ำมันดิบ แหล่งซื้อ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ว่า เมื่อคำนวณออกมาแล้วได้เท่าไหร่ มีราคาที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะกลุ่มโรงกลั่นอาจมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่หากค่าการกลั่นลดลง ราคาน้ำมันก็จะลดลงเช่นกัน

นายวัฒนพงษ์ ยังกล่าวว่า โดยส่วนตัวมองว่ากำไรระดับ 2-3 บาท น่าจะเหมาะสม ขณะที่การปล่อยให้กลุ่มโรงกลั่นทำการค้าเสรี ก็เป็นเรื่องของการแข่งขัน ดังนั้น หากได้ตัวเลขต้นทุนกำไรที่แท้จริง แล้วพบว่ากลุ่มโรงกลั่นมีกำไรมากจนเกินไป ก็อาจต้องขอความร่วมมือ ในช่วงที่ราคาพลังงานสูง

ส่วนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกหลังจากนี้ นายวัฒนพงษ์ คาดว่าอาจไม่พุ่งแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา โดยช่วงที่เหลือของปี 2565 อยู่ที่ระดับ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพราะขณะนี้กลุ่มประเทศยุโรป หรืออียู เริ่มมีการปรับตัวหันไปใช้แหล่งพลังงานอื่นมากขึ้น ขณะที่สหรัฐฯ จะปล่อยเชลก๊าซ (ก๊าซในชั้นหินดินดาน) ป้อนตลาด เพราะราคาจูงใจ แม้จะมีปัญหาเรื่องคาร์บอนอยู่บ้าง

สำหรับความต้องการใช้พลังงานไทยปี 2565 นายวัฒนพงษ์คาดว่า จะเติบระดับ 2.1% ภายใต้สมมติฐานผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ หรือจีดีพี โต 2.5-3.5% อัตราแลกเปลี่ยน 33.3-34.3 บาทต่อดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบดูไบ 105-110 ดอลลาร์ และจีดีพีโลก 3.5% ขณะที่การใช้พลังงานขั้นต้นรายชนิด พบว่าเติบโตเกือบทุกประเภท ยกเว้น ก๊าซธรรมชาติที่คาดว่าจะลดลง 9.5% เพราะราคาพุ่งสูงมากจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน จนผู้ใช้หันไปพึ่งน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตา ส่วนน้ำมัน คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12.9% , ถ่านหิน/ลิกไนต์ เพิ่มขึ้น 6.8% , ไฟฟ้าพลังน้ำ/ไฟฟ้านำเข้า เพิ่มขึ้น 8.2%

Related Posts

Send this to a friend