‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง กกต.ส่งศาล รธน.วินิจฉัย ปมแชทหลุดคุยจ่ายเงินชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน
‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ปมแชทหลุดคุยนายใหญ่จ่ายเงินชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน ยันไม่ได้ดิสเครดิต ตัดพ้อร้องมา 8 ครั้ง แต่ยังสาวไม่ถึง
วันนี้ (3 เม.ย. 66) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบกรณีที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภาโพสต์รูปภาพแชทผ่านเฟซบุ๊ก ที่อาจเข้าข่ายความผิดกฎหมายเลือกตั้งและพรรคการเมือง ในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้งอย่างชัดเจน
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า จากรูปภาพเป็นข้อความผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ให้ระดมและเรียกคนเสื้อแดงกลับมาช่วยเพื่อให้นายใหญ่กลับประเทศ ซึ่งในภาพข้อความดังกล่าวแม้จะมีการขีดฆ่าข้อความบางข้อความไปแต่ไม่ได้ลบทั้งหมด มีการแรเงาข้อความที่ระบุได้ว่าเป็นใคร ตำแหน่งใด แต่ตนเองไม่สามารถพูดได้ แต่หากใครเข้าไปดูในแชทไลน์ ก็จะเห็นว่ามีการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเพื่อเรียกกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดเลือกตั้งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 73 (1) ซึ่งระบุว่าห้ามมีให้ผู้สมัครหรือผู้ใด ให้ หรือเรียกให้ผลประโยชน์ และมาตรา 75 ที่ห้ามมีให้ผู้ใดรณรงค์หาเสียงโดยให้ผลประโยชน์ตอบแทนซึ่งกันและกัน หากฝ่าฝืนก็จะนำไปสู่การพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยยุบพรรคการเมือง
การที่นำเงินจากบุคคลแดนไกลมาใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรมหาเสียงเลือกตั้ง อาจเข้าข่ายความผิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92(1) (3) (4) เพราะระบอบประชาธิปไตยไม่ได้บัญญัติให้มีการซื้อเสียง และกกต.สามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ แม้ว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค เรื่องนี้เป็นเรื่องอยู่ในความสนใจของประชาชนว่าภาพชุดดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่ จึงต้องให้ กกต.ดำเนินการไต่สวน สอบสวน โดยมีอำนาจเรียกนายสมชาย และบุคคลที่ปรากฏมาสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความว่าอยากกลับบ้านหรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าจะเชื่อมโยงกันหรือไม่ แต่หากไปดูเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่สมาคมฯ เคยร้องเรียนในลักษณะนี้ คือมีการครอบงำพรรคการเมือง
สำหรับบุคคลนี้ตนเองมาร้องเป็นครั้งที่ 8 แล้ว ก็เชื่อมโยงมาโดยตลอด เพียงแต่พยานหลักฐานอาจจะสาวไปไม่ถึง กกต.ก็ยกคำร้องไป แต่ผมก็พยายามเน้นว่ามันเชื่อมโยงกันมาโดยตลอด จนวันนี้มีแชทไลน์ออกมา กกต.จะต้องดำเนินการให้ชัดเจน โปร่งใสและเป็นที่ยอมรับต่อสาธารณชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า แชทไลน์ดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ใช่หรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า แชทไลน์ไม่ได้ระบุวันเวลาไว้ แต่ต้องไปสอบนายสมชาย ว่าได้แชทดังกล่าวมาจากที่ใด คิดว่านายสมชายสามารถให้ข้อมูลในเรื่องนี้ได้ดี
เมื่อถามต่อว่า การยื่นคำร้องในครั้งนี้มีการมองว่าเป็นการดิสเครดิตพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า มีข้อมูลเชิงประจักษ์ออกมา มองว่าอาจจะมีข้อความที่ผิดต่อกฎหมาย ส่วนนายสมชาย จะมีเจตนาอย่างไร คิดว่า กกต.จะเรียกมาสอบ ตนเองมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นการดิสเครดิต แต่เป็นการพิสูจน์ความจริงว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ในฐานะนักกฎหมายก็สามารถวินิจฉัยเบื้องต้นได้ว่า อาจจะผิด แต่ตนเองไม่ใช่ผู้วินิจฉัยในขั้นสุดท้ายทำให้ต้องอาศัยหน่วยงานที่มีอำนาจเข้ามาดำเนินการ ซึ่ง กกต.มีระเบียบใหม่ออกมา ว่ามีเรื่องที่เกี่ยวข้องที่นำไปสู่การยุบพรรคการเมือง นึกว่ามีวิธีซึ่งจะต้องดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วคาดว่าจะใช้เวลา 1-2 เดือนก็จะแล้วเสร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อความในแชทไลน์ที่นายศรีสุวรรณนำมายื่นเป็นหลักฐานต่อ กกต.เพื่อให้สอบสวนนั้น มีการระบุข้อความในลักษณะขอเงิน ซึ่งผู้ที่ขอใช้ชื่อตนเองว่า “ตุ๋ย” เรียกบุคคลที่คุยด้วยว่า “นาย” โดยมีการสอบถามว่าใช้เงินเท่าไร และพูดถึงโครงการชวนคนเสื้อแดง 6 จังหวัดกลับบ้านมาช่วยให้ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ และต้องเป็นการแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้นาย…กลับบ้าน ส่วนนาย…ได้ระบุว่าจะส่งเงินจำนวน 1 ล้านบาทไปก่อน ขอให้คนเสื้อแดงไปตรวจสอบด้วยว่าเขตใดที่ยังไม่ได้ติดป้าย หรือไม่ได้ทำงาน ขอให้ทำให้ดี ไม่ขัดแย้งกัน