กต.แจงอียูยังไม่ตั้งเงื่อนไขเรื่องวัคซีนโควิด-19 สำหรับคนเข้าประเทศสมาชิกอียู
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในการเดินทางไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) จากประเทศไทยในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยยืนยันว่า ในขณะนี้ อียูยังไม่ได้ประกาศนโยบายให้การฉีดวัคซีนโควิด-19 ประเภทใด เป็นเงื่อนไขในการเดินทางเข้าประเทศสมาชิกอียู โดยตามข้อมูลที่ปรากฏในเว็บไซต์ https://reopen.europa.eu สถานะวันที่ 30 เม.ย.2564 การเดินทางจากประเทศไทยไปยัง 14 ประเทศสมาชิกอียู ได้แก่ โปรตุเกส สเปน อิตาลี เยอรมนี โครเอเชีย เช็ก โปแลนด์ เอสโตเนีย สวีเดน ฟินแลนด์ บัลแกเรีย กรีซ เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ ยังสามารถดำเนินการได้โดยไม่มีเงื่อนไข และประเทศสมาชิกอียูอีก 13 ประเทศ คือ ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก ลัตเวีย สโลวีเนีย สโลวาเกีย ฮังการี ลิทัวเนีย โรมาเนีย ออสเตรีย ลักเซมเบิร์ก และไซปรัส ที่เป็นไปแบบมีเงื่อนไขหรือข้อจำกัด
ทั้งนี้ แต่ละประเทศมีอำนาจในการประกาศกฎระเบียบเกี่ยวกับการเข้าเมืองและมาตรการด้านสาธารณสุขของตนเอง ประกอบกับสถานการณ์ด้านสาธารณสุขยังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้เดินทางจึงต้องตรวจสอบมาตรการสาธารณสุขของประเทศปลายทางก่อนออกเดินทางเสมอ และควรปฏิบัติตามมาตรการนั้นอย่างเคร่งครัด
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวอีกว่า สำหรับที่มีกระแสข่าวและข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จากประเทศนอกอียู ที่อาจไม่ได้สิทธิพิเศษตามเงื่อนไขในการเดินทางเข้าอียูนั้น ตนยืนยันว่าอียูยังไม่ได้กำหนดให้การฉีดวัคซีนหรือไม่ หรือการฉีดวัคซีนประเภทใด เป็นเงื่อนไขในการเดินทางเข้าเขตอียู สำหรับผู้ที่เดินทางจากประเทศไทย
ดังนั้น ผู้เดินทางจึงควรติดตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศสมาชิกอย่างใกล้ชิด โดยสามารถติดตามกฎระเบียบของแต่ละประเทศสมาชิกอียูล่าสุด ได้ทางเว็บไซต์ที่ระบุไว้ข้างต้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ อียูกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาวิธีการรับรองเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนฯ (Vaccination Certificate – VC) ของประเทศนอกอียู ซึ่งเมื่อการพิจารณาแล้วเสร็จ ก็จะขึ้นอยู่กับประเทศสมาชิกอียูแต่ละประเทศนำไปกำหนดมาตรการและเงื่อนไขในการเดินทางเข้าอีกครั้งหนึ่ง จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลว่าอียูจะจำกัดยี่ห้อวัคซีนใน VC จากประเทศนอกอียูหรือไม่