ศาลอาญานัดไต่สวน เบนจา-ชินวัตร-ณัฐชนน ละเมิดอำนาจศาล เหตุม็อบหน้าบันไดศาล 29 เม.ย. วันที่ 19 และ 27 พ.ค. นี้
วันนี้ (3 พ.ค. 64) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา ยื่นคำร้องคดีละเมิดอำนาจศาลที่กล่าวหา น.ส.เบนจา อะปัญ อายุ 22 ปีชาวจังหวัดนครราชสีมา
โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย.64 เวลาประมาณ 12.30 น. มีมวลชนกลุ่ม “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ประมาณ 300 คนได้มีการเชิญชวนกันมาทำกิจกรรมยื่นจดหมาย “ราชอยุติธรรม” พร้อมทั้งยืนอ่านกลอน “ตุลาการภิวัติ” ที่ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษกแขวงจอมพลเขตจตุจักร กรุงเทพมหานครโดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้เข้ามาในบริเวณศาลอาญาและรวมตัวกันบริเวณบันไดทางขึ้นด้านหน้าศาลอาญา (บริเวณหน้ามุกศาลอาญา) มีการใช้เครื่องขยายเสียงพร้อมทั้งตะโกนข้อความ “ปล่อยเพื่อนเรา”
จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.50 น. พ.ต.ท. ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย รอง ผกก.ป.สน.พหลโยธินได้อ่านประกาศคำสั่งผู้ว่ากรุงเทพมหานครเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบเรียบร้อย แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ แต่อย่างใด ต่อมาเวลาประมาณ 13.05 น. พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.พหลโยธิน ได้ประกาศเรื่องการใช้สิทธิ และเสรีภาพของผู้ชุมนุมให้อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อกำหนดของศาลและแจ้งให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบเรียบร้อย แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ชุมนุมและผู้ชุมนุมยังคงมีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ร่วมตะโกนด้วยข้อความต่างๆ อยู่เป็นระยะ มีการพูดผ่านเครื่องขยายเสียงกล่าวโทษศาลยุติธรรมและตุลาการศาลยุติธรรมทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยภายในศาลอาญา
น.ส.เบนจา ได้แสดงพฤติกรรม คือเวลา 15.00 น.ได้วิ่งผ่านแนวรั้วแผงเหล็กที่กั้นอยู่บริเวณหน้าบันไดทางขึ้นด้านหน้าศาลอาญา (บริเวณหน้ามุกศาลอาญา) พร้อมทั้งโปรยแผ่นกระดาษขณะวิ่งขึ้นบันไดโดยพยายามหลบหลีกเจ้าหน้าที่ศาลอาญาพร้อมตะโกนสรุปข้อความว่า “ตุลาการเช่นนี้อย่ามีเลย” และเมื่อโปรยกระดาษเสร็จแล้วได้หยุดยืนอยู่บริเวณบันไดและพูดผ่านเครื่องขยายเสียงโดยหันหน้าเข้าหาเจ้าหน้าที่ศาลสรุปข้อความได้ว่า “ขี้ข้าเผด็จการ ขี้ข้าเผด็จการ …” พร้อมโปรยกระดาษที่เหลืออีกครั้งต่อหน้าเจ้าหน้าที่
การกระทำของนางสาวเบนจาเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลและกระทำการฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลอาญาว่าด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาลอาญา พ.ศ.2564 ฉบับลงวันที่ 17 มี.ค.64 จึงให้เรียกมาไต่สวนฐานละเมิดอำนาจศาลในวันที่ 27 พ.ค. 64 เวลา 13.30 น. และลงโทษตามกฎหมายต่อไปเหตุตามคำกล่าวหา เหตุเกิดที่ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญายังได้ยื่นขอให้ดำเนินคดีคดีละเมิดอำนาจศาลอีก 2 คนซึ่งเป็นเหตุการณ์วันเดียวกันกับ น.ส.เบนจา
คนเเรกคือนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง อายุ 28 มีพฤติการณ์สรุปว่านายชินวัตร ได้ร่วมชุมนุมโดยยืนอยู่บริเวณหน้าบันไดทางขึ้นด้านหน้าศาลอาญา (บริเวณหน้ามุกศาลอาญา) ได้พูดผ่านเครื่องขยายเสียงด้วยข้อความว่า “ผมขอประกาศวันที่ 30 เม.ย. 64 นี้ผมจะเดินทางมาศาลอาญารัชดาแห่งนี้ ตั้งแต่ก้าวแรกที่ผมก้าวขึ้นศาลผมจะไม่เคารพต่อศาลอาญารัชดาแห่งนี้อีกต่อไปครับพี่น้อง…” โดยนายชินวัตร เป็นคนเดียวกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 2ในคดีละเมิดอำนาจศาลของศาลอาญาหมายเลขคดีดำที่ ลศ.1/2564
คนที่สอง นายณัฐชนน ไพโรจน์ อายุ 21 ปี พฤติการณ์สรุปว่า นายณัฐชนน ได้เข้าร่วมชุมนุมโดยยืนอยู่บริเวณด้านหน้าบันไดทางขึ้นด้านหน้าศาลอาญา (บริเวณหน้ามุกศาลอาญา) ได้พูดผ่านเครื่องขยายเสียงมีข้อความว่า “ผมขอไม่นับว่าท่านจบที่ธรรมศาสตร์ที่เดียวกับผมเพราะท่านไม่เคยรักประชาชนเหมือนที่มหาลัยสอน …” การกระทำของนายณัฐชนน เป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลและกระทำการฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลอาญาว่าด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาลอาญา จึงให้เรียกมาไต่สวนฐานละเมิดอำนาจศาลและลงโทษตามกฎหมายต่อไป
โดยศาลนัด นายชินวัตรเเละนายณัฐชนน ไต่สวนวันที่ 19 พ.ค. 13.30 น.