พรรคเพื่อไทยชี้แจง ไม่มีเจตนาเลื่อนร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แซงหน้าญัตติแผ่นดินไหว

ยืนยัน สส.ทุกคนตั้งใจอภิปรายเรื่องแผ่นดินไหวอย่างครอบคลุมทุกมิติ พร้อมย้ำจำเป็นต้องผลักดันร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด พร้อมด้วย นายสุทิน คลังแสง และ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกรณีการทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร จากสถานการณ์และการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติการเสนอเลื่อนระเบียบวาระการประชุม ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ไม่ใช่การเลื่อนขึ้นมาพิจารณาในวันนี้ แต่เป็นการเลื่อนขึ้นมาพิจารณาในคราวถัดไป ซึ่งก็คือวันพุธที่ 9 เมษายน 2568 โดยเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ แต่อาจทำให้ สส.ฝ่ายค้านและผู้ที่ไม่เข้าใจเกิดความเข้าใจผิด ซึ่งทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้ขอยื่นญัตติด่วนเกี่ยวกับมาตรการการป้องกัน ฟื้นฟูเยียวยาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา รวมทั้งการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดจากกรณีอาคาร สตง. ถล่ม พรรคเพื่อไทยมีเจตนารมณ์ที่ชัดเจน เหตุการณ์แผ่นดินไหวเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ โดยได้เตรียมหัวข้อการอภิปรายอย่างครอบคลุมครบทุกประเด็น และยืนยันว่า สส.ทุกคนตั้งใจมาอภิปรายญัตติเรื่องแผ่นดินไหวอย่างครอบคลุมทุกมิติ รวมทั้งการไต่สวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดมารับผิดชอบ ดังนั้น จึงไม่เป็นที่จะต้องเลื่อนร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ขึ้นมาตัดหน้าญัตติแผ่นดินไหว เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวเป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทยและเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่นเดียวกันนโยบายหวยเกษียณ

นายสุทิน คลังแสง กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมสภาฯ ในวันนี้เป็นการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทั้งที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีเจตนาจะพูดเรื่องแผ่นดินไหวเหมือนกัน แต่ทางฝั่งรัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องขอเลื่อนญัตติของสัปดาห์หน้าขึ้นมาเสียก่อน เนื่องจากเป็นการปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ซึ่งหากจะขอเลื่อนร่าง พ.ร.บ. ขึ้นมาพิจารณา จำเป็นต้องขอเลื่อนระเบียบวาระการประชุมขึ้นมาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ และใช้ระยะเวลาในการขอเลื่อนวาระการประชุมไม่ถึง 5 นาที แต่เกิดความเข้าใจผิดเสียก่อน จึงขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีเจตนาจะยื่นญัตติแซงหน้าญัตติเรื่องแผ่นดินไหว ซึ่งกว่าจะเจรจาจนได้ข้อยุติก็เสียเวลาเป็นชั่วโมง ทำให้การพิจารณาเรื่องแผ่นดินไหวช้าไปถึง 3 ชั่วโมง ส่วนเรื่องความจำเป็นในการเลื่อนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวขึ้นพิจารณานั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และต้องการรายได้ใหม่เพื่อเร่งให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเร็วที่สุด

น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ กล่าวว่า เนื่องจาก ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวเป็นประเด็นที่มีข้อถกเถียงกันอย่างกว้าง ดังนั้น การตั้งคณะ กมธ.ขึ้นมาศึกษาเรื่องดังกล่าวในช่วงปิดสมัยประชุมจึงเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีระยะเวลาในการพิจารณา และคณะ กมธ.เองก็จะไม่มีความกังวลใจในการพิจารณาเรื่องอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้กระบวนการพิจารณาเป็นไปอย่างรอบคอบรอบด้าน รวมทั้งยังมีสัดส่วน กมธ.มาจากทั้งภาคประชาชน ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และหน่วยงานต่าง ๆ มารวมกันพิจารณา ประกอบกับวิกฤตทางเศรษฐกิจ และมาตรการทางภาษีจากนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จึงเป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้ต้องเร่งพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างเร่งด่วน