‘แพทองธาร‘ สวมผ้าไทยมอบนโยบายท้องถิ่น บอกเป็นนายกฯ อายุน้อยสุดต้องมีเอเนอจี้
วันนี้ (3 เม.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการบริหารราชการระหว่างภูมิภาคและท้องถิ่น เพื่อบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์
นางสาวแพทองธาร ได้เยี่ยมชมนิทรรศการผลการดำเนินงานขับเคลื่อนภารกิจกระทรวงมหาดไทยของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ภายใต้แนวทางนโยบาย 5 ด้าน และชมวีดิทัศน์ “ภารกิจขับเคลื่อนนโยบายสำคัญกระทรวงมหาดไทย ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น”
นางสาวแพทองธาร กล่าวเปิดโครงการว่า ดีใจเป็นอย่างมากที่ได้มาเจอทุกท่าน แค่เดินเข้ามาพบเจอก็รู้สึกมีความมีสีสัน ทุกคนใส่ผ้าไทยสวยงามมาก มั่นใจว่าทุกคนจะเป็นตัวแทนในการขายผ้าไทยไปให้ทุกกลุ่มและทั่วโลก ขอแสดงความยินดีกับนายก อบจ.ที่ผ่านการเลือกตั้งและดำรงตำแหน่ง วันนี้มีโอกาสได้มาเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดโครงการ มั่นใจว่าส่วนท้องถิ่นทำงานใกล้ชิดกับประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะส่วนกลางที่เป็นรัฐบาลเรามอบนโยบายใหญ่ แต่คนจะสามารถทำให้นโยบายนั้นเกิดขึ้นได้คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายกท้องถิ่น
“ขอให้ผ่อนคลาย วันนี้ไม่ได้ใส่เครื่องแบบใส่ผ้าไทยที่สวยงาม สามารถยิ้มให้กันได้ค่ะ ยินดีที่ได้มาและพบเจอกับทุกท่าน หลายจังหวัดที่ตนเองได้ไปได้พบกับผู้ว่าราชการเกือบทุกจังหวัดที่มาต้อนรับ หลายจังหวัดทำงานกับพี่น้องประชาชนจริง ๆ และทราบปัญหาของพี่น้องประชาชนจริง ๆ”
ปลายปีที่ผ่านมามีภัยพิบัติต่าง ๆ ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นคนสำคัญที่จะใช้งบประมาณในการช่วยเหลือประชาชน สามารถเข้าไปถึงในแต่ละบ้านได้รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรในท้องที่นั้น ๆ สิ่งสำคัญคือ การจะทำให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดและนายก อบจ.สามารถประสานนโยบายให้มีทิศทางเดียวกัน เพื่อพัฒนาจังหวัดนั้น ๆ ไปในทางที่ตรงกัน ความสามัคคีและการสื่อสาร จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ปัญหาของประเทศไทยและหลายจังหวัด ภาคเหนือมีปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 และมีเหตุแผ่นดินไหว จังหวัดจังหวัดบุรีรัมย์อาจจะไม่ได้รับผลกระทบมาก ใหญ่ที่สุดคือ กรุงเทพมหานครที่ไม่ได้มีผลกระทบทั้งหมด แต่เป็นเรื่องของตึกหนึ่งที่มีปัญหา ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับจังหวัดไหนนั่นคือภาพรวมของประเทศไทย ทุกคนจึงจะมีส่วนสำคัญในการทำให้ประเทศไทย มีความเชื่อมั่น เป็นภาพที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
ขออย่าคิดว่าเราเป็นจังหวัดเล็ก ๆ เทียบกับจังหวัดใหญ่ไม่ได้ สมมติว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในจังหวัดเล็ก ๆ จังหวัดใดก็ตามมีผลทั้งสิ้น เพราะทุกจังหวัดคือประเทศไทย ทุกคนมีส่วนทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าแข็งแกร่ง จึงขอความร่วมมือจากทุกท่าน รัฐบาลอยากจัดสรรงบประมาณให้ทั่วถึงและเหมาะสม เราพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกคน
นางสาวแพทองธาร กล่าวถึง 4 ประเด็น ที่อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายก อบจ.ร่วมกันทำ ประเด็นแรกคือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุข การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกพูดถึงพลังงานสีเขียว จังหวัดใดที่อยากจะเน้นการท่องเที่ยวต้องโฟกัสเรื่องนี้ เพราะโลกที่เปลี่ยนแปลงไป มีเทคโนโลยีและ AI เข้ามามากมาย ย่อมใช้พลังงานเยอะ เราสามารถประหยัดพลังงานพลังงานได้อย่างไร จึงอยากให้ทุกคนตระหนักเรื่องการรีไซเคิล และการประหยัดพลังงาน
รวมถึงเรื่องการศึกษา เพราะเป็นการเตรียมเพื่อนำไปสู่อนาคตที่เข้มแข็งได้ ประเทศเราขาดการพัฒนาด้านการบุคคลรุ่นต่อไปจะมีการเตรียมตัวอย่างไร เพื่อให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว วัยทำงานต้องเรียนเร่งด่วนเพื่อให้มีทักษะเพิ่มขึ้น ขณะนี้รัฐบาลมีโครงการ ODOS ให้เด็กได้ไปเรียนในมหาวิทยาลัยในสาขาต่าง ๆ โครงการ Zero Dropout ไม่ให้เด็กออกจากระบบการศึกษา ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ
ประเด็นที่สองคือ การจัดทำยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังหวัดร่วมกันเพื่อให้จังหวัดและท้องถิ่นมีทิศทางเดียวกัน ทั้งยังต้องประสานงานกับจังหวัดที่ใกล้เคียง ตนเองพร้อมรับฟังจังหวัดต่าง ๆ เสนอผ่านทางนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยก่อนก็ได้ เนื่องจากแต่ละจังหวัดมีความต้องการที่ต่างกัน
ประเด็นที่สามคือ การจัดเก็บรายได้และงบประมาณ การขอรับอุดหนุนจากส่วนกลางให้มีความสอดคล้องกับภารกิจของรัฐบาลและความต้องการของประชาชน ยกตัวอย่าง ปัญหายาเสพติดที่อยากจะให้ทุกที่ปลอดยาเสพติด หากเรามีประชาชนที่เข้มแข็งก็สามารถพัฒนาประเทศได้ง่ายยิ่งขึ้น จึงต้องฝากให้ทุกจังหวัดช่วยดูแลเข้มข้น เป็นนโยบายที่รัฐบาลเน้นมาโดยตลอด จนกว่ายาเสพติดจะหมดไปให้ได้
ประเด็นที่สี่คือ การสร้างความร่วมมือกับรัฐบาลในการดำเนินนโยบายรัฐบาลให้บรรลุตามแผนจัดกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งจะเป็นดัชนีชี้วัความสำเร็จในการดำเนินงานมีผลต่อการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไป ในปีงบประมาณ 2568 รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.04
นางสาวแพทองธาร ย้ำว่าอยากให้ทำประโยชน์กับพี่น้องประชาชน เรามีหน้าที่สวมหมวกเป็นผู้ดูแลท้องถิ่น ซึ่งเป็นอะไรที่สำคัญมาก ผู้ว่าราชการจังหวัดคือ ตัวแทนของรัฐบาลที่จะทำให้นโยบายจากรัฐบาลไปถึงพี่น้องประชาชนทุกคนจริง ๆ จึงขอให้ทุกคนมีกำลังใจในการทำงาน ตนเองอยากใกล้ชิดหรือสร้างปัญหามากยิ่งขึ้น ถ้ามีคิวจะไปจังหวัดไหน ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายก อบจ.สามารถขอเวลาได้ อนุญาตเลย จะได้คุยกันรับรู้ปัญหาทุกจังหวัด จะได้แอคทีฟ
“เป็นนายกฯ อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ก็ต้องมีเอเนอจี้ด้วย จะได้ปรับเปลี่ยนกัน“ นางสาวแพทองธาร ทิ้งท้าย
