POLITICS

‘ปิยบุตร’ สวมเสื้อก้าวไกล เป็นผู้ช่วยหาเสียงวันแรก ระบุไม่ขัดกฎหมาย

‘ปิยบุตร’ สวมเสื้อก้าวไกล เป็นผู้ช่วยหาเสียงวันแรก ระบุทำได้ไม่ขัดกฎหมาย ยันสัมพันธ์ ‘พิธา’ เหนียวแน่น มุ่งเปลี่ยนแปลงประเทศมากกว่าขัดแย้งกันเอง

วันนี้ (3 มี.ค.66) นายปิยบุตร แสงกนกกุล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล เปิดเผยกับ The Reporters ว่า ตนเองล้างสนามมานาน ก่อนหน้านี้มีการไปช่วยหาเสียงท้องถิ่น แต่ครั้งนี้กลับมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล จึงรู้สึกตื่นเต้น ประกอบกับวันนี้ใส่เสื้อพรรคก้าวไกลวันแรก จริง ๆ อยากซื้อเสื้อมาใส่นานแล้วแต่มีพวกนักร้องจับตาดูอยู่ เมื่อสังเกต แต่ละคนที่ถูกตัดสิทธิก็ใส่เสื้อพรรคการเมืองได้ พรรคก้าวไกลก็ตั้งตนเอง เป็นผู้ช่วยหาเสียงมอบเสื้อให้ตนเอง ยืนยันว่าทำได้ตามระเบียบ กกต.

ทั้งนี้ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเมื่อครั้งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตัดสิทธิตนเองไม่ให้สมัครรับเลือกตั้ง ไม่ให้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง และไม่ให้ร่วมก่อตั้งพรรค เป็นเวลา 10 ปี ซึ่งตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงให้นิยามคำว่า “ผู้ช่วยหาเสียง” ว่าเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่พรรคแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยหาเสียง ซึ่งตนเองยังมีสิทธิเลือกตั้งอยู่ จึงเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้

นายปิยบุตร กล่าวว่า มีบรรทัดฐานมาแล้ว เมื่อการเลือกตั้งปี 2562 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ถูกตัดสิทธิ เพราะจำคุกและพ้นออกมาไม่เกิน 10 ปี แต่ยังไปช่วยหาเสียงให้พรรคเพื่อชาติทั่วประเทศ ครั้งนี้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อก็เช่นกัน ถูกตัดสิทธิการสมัครเลือกตั้ง แต่มีสิทธิเลือกตั้ง จึงเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยได้ ส่วนประเด็นการครอบงำ ทั้งตนเอง นายธนาธร และนางสาวพรรณิการ์ ไม่ใช่สมาชิกพรรค ครอบงำพรรคก้าวไกลไม่ได้ แต่ปราศรัยหาเสียง ชักชวนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้เลือกพรรคก้าวไกลได้

ส่วนที่มีคนคอยจับผิด อาจนำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกล นายปิยบุตร ยืนยันว่าการปราศรัยทั้งหมดคือการหาเสียง บรรทัดฐานก็มีให้เห็น คนที่ถูกตัดสิทธิเหมือนตนเองก็มาเป็นผู้ช่วยหาเสียง การเลือกตั้งเป็นเรื่องการเมือง อยากให้โฟกัสเรื่องนโยบาย อย่าหมกมุ่นกับการร้องกันไปกันมา เพราะสังคมไม่ได้อะไร

ขณะที่ประเด็นความขัดแย้งกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่มีกระแสก่อนหน้านี้ ยอมรับว่าตอนนั้นขัดแย้งกันจริง ไม่ได้ดราม่า เล่นละคร ซึ่งแก้ปัญหาความขัดแย้ง เคลียร์เรียบร้อยแล้ว 70 วันนับจากนี้จะเดินทางไปทั่วประเทศไทย หาเสียงให้นายพิธา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อต้องมี ส.ส.พรรคก้าวไกล รัฐบาลต้องมีหน้าที่คนแบบนายพิธา เป็นนายกฯ ซึ่งผลงานในสภาผู้แทนราษฎร แสดงให้เห็นแล้ว

“ขณะนี้กลับมาใกล้ชิด คุยกันอย่างตรงไปตรงมา เป้าหมายพรรคก้าวไกลคือ เปลี่ยนแปลงประเทศไทย เป็นความหวังของพี่น้องประชาชน สำคัญมากกว่าที่พวกผมจะมาขัดแย้งกัน” นายปิยบุตร กล่าวทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat