POLITICS

‘เอกนัฏ’ อภิปรายเรียกร้อง สส.ทั้งสภาฯ ผลักดันงบประมาณให้ผ่านโดยเร็ว

หวังนำไปสานต่อโครงการที่เป็นประโยชน์-พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมเสนอติดตามการใช้งบให้เกิดความโปร่งใส

วันนี้ (3 ม.ค. 67) ที่รัฐสภา นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วาระแรก ว่าขอเชิญชวนให้สมาชิกที่อยู่ในห้องประชุมร่วมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 67 นี้ ให้นึกถึงประชาชน ผู้ประกอบการ และประเทศ เนื่องจากขณะนี้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่ใช้ขับเคลื่อนประเทศ 4 เครื่อง คือ การบริโภค การลงทุน การส่งออก และการใช้จ่ายภาครัฐ ดับมา 3 เดือนแล้ว ซึ่งกว่าจะพิจารณาเสร็จ ใช้เวลา 3-4 เดือน ระหว่างนี้เครื่องยนต์จะถูกใส่เกียร์ว่างต่อไป

นายเอกนัฏ กล่าวว่า เราประสบปัญหาโรคอุบัติใหม่ ถูกท้าทายด้วยการดิสรัปชั่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ จากเดิมดิจิทัล ดิสรัปชั่น มาเป็น AI ดิสรัปชั่น กำลังเผชิญกับความท้าทายกับสังคมผู้สูงวัย ตัวเลขที่ถูกวิเคราะห์จะเห็นว่าสัดส่วนของผู้สูงวัย สูงขึ้นทุก 10 ปี 7-10% จะส่งผลอย่างไรต่อประสิทธิภาพในผลผลิตของประเทศ แต่ที่สำคัญสุด คือ การเปลี่ยนแปลงของอากาศ เพราะไทยสร้างรายได้จากพื้นฐานของการทำเกษตรกรรม

นายเอกนัฏ กล่าวด้วยว่า การใช้งบประมาณมีการตั้งงบขาดดุลมาเป็นเวลา 20 ปี ตั้งแต่ปี 2549-2550 ตั้งงบสำหรับใช้มากกว่ารายรับของประเทศ ส่วนต่างนำมาลงทุนโดยหวังว่าเศรษฐกิจจะเติบโต และนำรายได้มาแบ่งปันในรูปแบบของสวัสดิการ สำหรับงบประมาณฉบับนี้ ตั้งงบขาดทุนไว้ 6.93 แสนล้านบาท ตนมองเห็นว่าในส่วนงบลงดุล มีการตั้งไว้ 7.18 แสนล้านบาท เราตั้งงบรายจ่ายสูงกว่าเงินที่รับมาในสัดส่วนที่ตรงกับเงินที่นำไปลงทุนถือว่าเริ่มติดกระดุมถูกเม็ด แปลว่าเห็นความสำคัญของการตั้งงบสำหรับการลงทุน

นายเอกนัฏ อภิปรายว่า การพิจารณางบประมาณฯ ฉบับนี้ อย่ามองยอดเป็นเพียงตัวเลข อย่าดูแค่ว่าตั้งเงินไว้ซื้ออะไรได้บ้าง สร้างถนนได้กี่เส้น สร้างอาคารได้เท่าไหร่ แต่ต้องมองว่างบลงทุนที่ถูกนำไปใช้ จะช่วยเติมเต็มภาคเอกชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อสร้างรายได้ได้เท่าไหร่

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า การพิจารณางบประมาณช่วงหลายปีที่ผ่านมา คำนึงถึงการบูรณาการงบประมาณ ตนเรียกว่า การรวมศูนย์การใช้งบประมาณ เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล AI ถ้าแจกงบไปตามกระทรวงให้ไปทำ ต่างหน่วยงานก็จะนำงบไปซื้อกล่องมาเก็บข้อมูลเก็บไว้ใน Data แต่ไม่มีการเชื่อมต่อ จึงต้องริเริ่มและส่งสัญญาณชัดเจนอย่างรัฐบาลส่วนกลาง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ตนเชียร์ให้ออกแบบให้เป็นระบบทั่วประเทศ จัดงบประมาณไปตามหน่วยงานต่าง ๆ แล้วมีหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพ

นายเอกนัฏ กล่าวว่า ปัจจุบันมีสงครามความขัดแย้งทั่วโลก มีต้นทุนการขนส่งแพงขึ้น ต้องสานต่อโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกสร้างและพัฒนามาตลอด 9-10 ปีที่ผ่านมา ทั้งทางรถไฟรางคู่ ถนนหนทาง รถไฟความเร็วสูง ท่าอากาศยาน หรือท่าเรือทางน้ำ โดยงบประมาณฉบับนี้มีการตั้งงบไว้เกือบ 2 แสนล้านในการสานต่อเพื่อลดต้นทุนผู้ประกอบการและประชาชน

การเพิ่มมูลค่าด้านการท่องเที่ยว เรื่อง EV และพลังงานสะอาด เป็นสิ่งสำคัญ ต้องมียุทธศาสตร์การใช้ในพื้นที่ เราเห็นความสำเร็จในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด จนถึงโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ ‘อีอีซี’ มีการตั้งงบในการลงทุนพัฒนาพื้นที่โซนนี้ต่อ ซึ่งตนอยากให้เกิดทางภาคเหนือ อีสาน ตะวันตก หากมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง จะถือเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจที่จะนำรายได้มาสู่ประเทศ

นอกจากนี้ นายเอกนัฏ ยังระบุว่า เมื่อพิจารณางบประมาณฉบับนี้เสร็จ จะต้องเร่งใช้งบประมาณด้วย วิธีหาคนมาช่วยใช้แบบง่ายที่สุดคือ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปกระจายใช้ หลายปีที่ผ่านมามีการเพิ่มสัดส่วนงบประมาณ นำความเจริญไปสู่ท้องถิ่น วันนี้ประมาณ 29% จากเป้าหมาย 30% ในปีนี้เหลือเวลา 4-5 เดือน ถ้าให้การใช้คล่องตัวมีประสิทธิภาพรวดเร็ว ถ้ากรมกองใช้ไม่ทัน มีแนวคิด มีแนวทางอยู่ 2 ทางคือ

1.ตัดมานำมากองรวมแล้วใช้แบบรวมศูนย์ในโปรเจคใหญ่

2.กระจายออกไปให้ท้องถิ่นช่วยใช้ปรับหลักเกณฑ์กติกาให้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส

นายเอกนัฏ กล่าวต่อไปว่า พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ ปี 2560 มีการอัพเกรดระบบการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ebidding ทำให้การประมูลโครงการจัดซื้อจัดจ้างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความโปร่งใสมากขึ้น ขณะที่กำลังผลักดันให้ประเทศเข้าสู่ partnership Open Government ไปขอเงินลงทุนมาเพิ่มจากประชาคมโลก หรือ ocd คนคิดว่าดีที่สุดในการแก้ปัญหาเรื่องการทุจริตงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้าง คือ การเปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจทานดูแล ตนมั่นใจว่างบจะถูกใช้อย่างสุจริต สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่มาลงทุน เพิ่มสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาคมโลก และต่างประเทศ

Related Posts

Send this to a friend