POLITICS

‘ดร.ธนกร’ แจงผลการดำเนินงาน กองทุนสื่อฯ ปี 66 ต่อวุฒิสภา

‘ดร.ธนกร’ แจงผลการดำเนินงาน กองทุนสื่อฯ ปี 66 ต่อวุฒิสภา เผย ขยายช่องทางให้ผู้ผลิตเข้าถึงทุนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ด้าน เทวฤทธิ์ แนะ บรรจุหลักสูตรรู้เท่าทันสื่อให้อยู่ในแบบเรียน ติดอาวุธทางปัญญาให้เยาวชน

วันนี้ (2 ก.ย. 67) การประชุมวุฒิสภา พิจารณาระเบียบวาระเรื่องที่เสนอใหม่ ซึ่งเป็นการรายงานประจำปี 2566 กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ.2558 โดยมี นายธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เป็นผู้ชี้แจง

นายธนกร กล่าวว่า กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ตั้งโดย พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พ.ศ.2558 เริ่มจัดสรรทุนมาตั้งแต่ปี 2560 ต่อเนื่องมาทุกปีจนถึงปัจจุบัน โดยได้งบประมาณจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ซึ่งอยู่ใน กสทช. โดยได้รับปีละ 500 ล้านบาท

สำหรับการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนฯ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นวงเงิน 300 ล้านบาท นำมาจัดสรรให้กับผู้รับทุนประจำปี ซึ่งจะเปิดให้มีการขอรับทุน โดยยื่นเสนอโครงการปีละครั้ง ส่วนอีก 200 ล้านบาท เป็นงบในการบริหารจัดการ และการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ของสำนักงาน

การดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นไปตามบทบัญญัติในมาตรา 5 ซึ่งกำหนดวัตถุประสงค์ของกองทุน นำมาจัดทำเป็นยุทธศาสตร์ 5 ปี การพัฒนากองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยระยะที่ 1 ดำเนินการตั้งแต่ 2561-2565 ปัจจุบันอยู่ในระยะที่ 2 โดยแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี จะสิ้นสุดในปี 2570 ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 ด้าน กองทุนนำมากำหนดกลยุทธ์ 6 สร้าง ดังนี้

1.สร้างสื่อ ส่งเสริมให้มีสื่อที่ดี ปลอดภัย และสร้างสรรค์ โดยเฉพาะสื่อของกลุ่มเฉพาะ ทั้งกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการ

2.สร้างคน ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรที่เป็นผู้ผลิตสื่อในทุกระดับ

3.สร้างภูมิคุ้มกัน หรือสร้างทักษะการรู้เท่าทันสื่อให้กับเด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ ซึ่งปัจจุบันได้รับผลกระทบจากข้อมูลข่าวสารเชิงลบจำนวนมาก

4.สร้างองค์ความรู้ กองทุนฯ ศึกษาวิจัยพัฒนานวัตกรรม ทำงานวิจัยในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงจัดให้มีวารสารทางวิชาการของกองทุน

5.สร้างเครือข่ายกับองค์กรต่าง ๆ การขับเคลื่อนสื่อ หรือรณรงค์ให้รู้เท่าทันสื่อ ไม่สามารถดำเนินการโดยหน่วยงานเดียวเพียงลำพัง จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุน และร่วมมือกับทุกฝ่าย

6.สร้างองค์กรให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ของกองทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในปี 2566 การจัดสรรทุนแบ่งเป็น 3 ประเภท ประเภทแรก คือ ทุนเปิดรับทั่วไป แบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มเด็กและเยาวชน, กลุ่มผู้สูงอายุ, กลุ่มคนพิการ รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ คนชายขอบ และกลุ่มคนทั่วไป

ประเภทที่ 2 ทุนประเภอเชิงยุทธศาสตร์ เอาประเด็นการผลิตสื่อเป็นตัวตั้ง กำหนดประเด็นที่สอดคล้องกับกองทุนฯ โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อม สถานการณ์ สภาพการเปลี่ยนแปลงของสื่อแต่ละปี นำมาเป็นประเด็นในการให้ทุนยุทธศาสตร์

ประเภท 3 เป็นประเภทที่ให้ความร่วมกับกลุ่มนิติบุคคล ที่มีวัตถุประสงค์ที่ใกล้เคียงกัน

ด้านการดำเนินงาน ในปี 2566 ได้จัดทำการศึกษาให้มีผลสัมฤทธิ์ของการใช้ พ.ร.บ. โดยมอบหมายให้สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เป็นผู้ศึกษาประเมินผล และรายงานผลสัมฤทธิ์ ผลการศึกษาชี้ชัดว่า กองทุนฯ ดำเนินงานบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่จัดตั้ง แต่มีข้อเสนอแนะในข้อจำกัดด้านกฎหมายเรื่องของที่มางบประมาณ เนื่องจากการรับเงินจากกองทุนไม่ได้กำหนดวงเงินชัดเจน แต่เป็นการให้พิจารณาจัดสรรตามความจำเป็นและเพียงพอต่อการดำเนินงาน ซึ่งในทางปฏิบัติมีข้อจำกัด จึงเห็นควรดำเนินการผลักดันให้มีการแก้กฎหมายในโอกาสต่อไป

ด้าน เทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา ระบุว่า เห็นด้วยที่กองทุนฯ มีการพูดถึงบทบาทของหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาร่วมในการสร้างการรู้เท่าทันสื่อ แต่ต้องส่งเสริมให้ไปอยู่ในแบบเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษา โดยเฉพาะความคิดเชิงวิพากษ์ที่จะต้องติดอาวุธทางปัญญาให้กับเยาวชน

นอกจากนี้ ควรมีการสนับสนุนพื้นที่ให้สื่อจำพวกงานเชิงสืบสวนสอบสวน ข่าวเจาะ งานเชิงลึก สร้างบริบทของสื่อที่จะสร้างสรรค์ในสังคมที่มีข้อจำกัดด้านกฎหมายหลากหลาย โดยกองทุนสื่อฯ ต้องเข้ามาทำหน้าที่กรุยทางรดน้ำพรวนดิน ให้เกิดระบบนิเวศที่ทำให้เกิดสื่อที่ดีได้ สนับสนุนการรวมกลุ่มสร้างอำนาจการต่อรองให้กับสื่อ เพื่อให้เกิดสวัสดิภาพ สวัสดิการของสื่อมวลชน ให้ชีวิตที่ดี จะทำให้เกิดงานสื่อที่ดีขึ้น

ชิบ จิตนิยม สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา หลายกลุ่มเข้าถึงยาก ส่วนใหญ่ขอทุนแล้วไม่ผ่าน อยากเสนอให้กองทุนฯ ปรับรูปแบบการสนับสนุน เช่น แยกกลุ่มสถาบันการศึกษา กลุ่มผู้ผลิตสื่อ เป็นต้น

นายธนกร ชี้แจงเพิ่มเติมว่า กระบวนการอนุมัติทุนเป็นอำนาจของอนุกรรมการบริหาร กองทุนมีกลไกอนุมัติทุนละเอียดรอบคอบ มีการทำเอกสารนำเสนอคณะทำงานชุดแรกเพื่อกลั่นกรองเบื้องต้น ปีหนึ่งมีข้อเสนอโครงการประมาณหนึ่งพันโครงการ โดยให้อนุกรรมการกลั่นกรองและพัฒนาโครงการ พร้อมตั้งคณะทำงานขึ้นมา เป็นผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกทั้งหมด ทำให้คณะทำงานแต่ละคณะมีความเป็นอิสระ ซึ่งกองทุนฯ มีการทำด้วยความรอบคอบ และใช้กรรมการชุดใหม่ทุกปี จากนั้นส่งให้อนุกรรมการกลั่นกรองลำดับสุดท้าย

สำหรับเรื่องข้อจำกัดของสื่องท้องถิ่นที่มีการร้องเรียนว่าเข้าถึงทุนได้ยาก กองทุนฯ มีการลงพื้นที่ไปยังท้องถิ่น พร้อมเปิดช่องทุนประเภทความร่วมมือเพื่อแก้ไขข้อจำกัดดังกล่าว ขณะที่ประเด็นการเข้าถึงยาก กองทุนฯ มีการจัดการสอนวิธีการเขียนโครงการ ซึ่งปีนี้มีการรายงานให้บอร์ดแก้ไขข้อบังคับเพื่อสนับสนุนแก่ผู้ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์แล้ว สามารถต่อยอดได้เลย ย้ำว่ากองทุนเข้าถึงง่าย สำหรับเรื่องผลงาน การให้ทุนมีระยะเวลาให้ทุน 1 ปี สามารถขยายได้ 6 เดือน 2 ครั้ง ทำให้ผลงานที่ต้องใช้เวลานาน ได้มีการเตรียมการอย่างน้อย 2 ปี ในการสร้างสรรค์ผลงาน

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat